บลจ.ฟินันซ่าจ่ายเงินปันผลกองทุน “เอเชี่ยน คอมซัมชั่น” (FAM ACF) อัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 12 ก.พ. 57 มองปัจจัย QE ยังเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนระยะสั้น
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนดังกล่าวจะทำการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิดหน่วยลงทุน ฟินันซ่า เอเชี่ยน คอมซัมชั่น (FAM ACF) ในวันที่ 12 ก.พ. 57 สำหรับงวดบัญชีระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 56 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 5 ก.พ. 57 เวลา 08.00 น. โดยบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 (สิบสตางค์) บาทต่อหน่วย
โดยมองการลงทุนระยะสั้นในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงปี 2557 ยังคงมีแรงกดดันจากการทยอยการยกเลิกการใช้มาตราการ QE ของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาให้มีผลตอบแทนที่ชะลอตัวลง เนื่องจากมีแนวโน้มที่เงินลงทุนจะไหลกลับไปในสหรัฐฯ แต่ต้องถือได้ว่าจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงแข็งแกร่ง และยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่าง สหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงทิศทางการขยายตัวของภาคการบริโภคในเอเชียที่ในระยะยาวยังคงถือได้ว่ามีโอกาสในการเติบโตในระดับสูง ส่งผลให้กองทุนเปิดหน่วยลงทุน ฟินันซ่า เอเชียน คอนซัมชั่น (FAM ACF) ยังคงมีความน่าสนใจในการลงทุนในปี 2557 เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรมกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ ธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) ธุรกิจสินค้าจำเป็น (Customer Staples) และธุรกิจสินค้าสุขภาพ (Health Care) ในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) โดยธุรกิจภาคการบริโภคในเอเชียต้องถือได้ว่ายังคงมีโอกาสในการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตามขนาดจำนวนประชากรที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวในระดับสูง ประกอบกับการขยายตัวของกำลังซื้อที่มีการขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเศรษฐกิจในแถบเอเชียได้มีการขยายตัวในอัตราที่เป็นบวกได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 4 แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิดดัชนีธุรกิจพลังงานและธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (FAM EPIF) ในวันที่ 12 ก.พ. 57 สำหรับงวดบัญชีระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 56 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 5 ก.พ. 57 เวลา 08.00 น. โดยบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 (สิบสตางค์) บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ กองทุนเปิดดัชนีธุรกิจพลังงานและธุรกิจปิโตรเคมี (FAM EPIF) ลงทุนในหุ้นที่ออกโดยบริษัทธุรกิจพลังงาน และธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
สำหรับการลงทุนในธุรกิจพลังงาน และธุรกิจปิโตรเคมีในไทยต้องถือได้ว่ามีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากในปัจจุบันต้องถือได้ว่าการประเมินค่าของหุ้นในธุรกิจพลังงานและธุรกิจปิโตรเคมี เมื่อมองจากทั้งด้านอัตราส่วนของราคาต่อกำไร รวมถึงอัตราส่วนของราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี อยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานภายนอกประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้น จากการที่ประเทศที่พัฒนาแล้วเริ่มมีแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน ซึ่งจะมีผลทำให้ความต้องการสินค้าพลังงานและปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน
