“คชาบราเธอร์ส” ทุ่มงบ 150 ล้านบาทลุยหนักปีนี้ พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “แพสเทล” ย้ำผู้นำร้านขนมหวานในไทย คาดปลายปีเห็นแฟรนไชส์ใหม่อีก 1 แบรนด์ ยอมรับไตรมาสแรกนิ่งปรับทิศเน้นกลุ่มพรีเมียมแมส มั่นใจสิ้นปีนี้โกย 200 ล้านบาท
นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางงบประมาณการลงทุนปี 2557 ไว้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะมีทั้งการลงทุนขยายสาขาใหม่ การเปิดแบรนด์ใหม่และการรีแบรนด์ด้วย จากปัจจุบันมีร้านขนมหวานและไอศกรีมรวม 6 แบรนด์ที่พัฒนาเองคือ สฟรี, สฟรีเจอาร์, พาร์เฟริโอ, กาแฟอัลดี้, เกียวโรลเอ็น, และล่าสุดคือร้าน “แพสเทล” และอีกแบรนด์ที่ซื้อแฟรนไชส์จากต่างประเทศคือ “เทราโอกะ เกี๊ยวซ่า” จากญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจแคเทอริ่งอย่างจริงจังด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการทดลองบริการบ้างแล้ว และมองว่าเป็นธุรกิจบริการที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างดีและยังเป็นการสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ นโยบายของบริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาดร้านขนมหวานหลากหลายสไตล์ด้วยการพัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเอง ส่วนอาหารคาวนั้นจะเป็นวิธีการซื้อ หรือร่วมทุนกับเจ้าของแฟรนไชส์ในต่างประเทศเข้ามาเปิดบริการ จะเน้นอาหารที่ยังไม่ค่อยมีในไทย เป็นสไตล์สเปเชียลตี้ หรือร้านอาหารเฉพาะไปเลย โดยปีนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 3-4 แบรนด์ในต่างประเทศ คาดว่าภายในปลายปีนี้จะได้เห็น 1 แบรนด์
สำหรับปีนี้จะรีเฟรชแบรนด์ “สฟรี” ใหม่ซึ่งมีทั้งหมด 22 สาขาให้มีภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใสจับกลุ่มผู้หญิงที่รักสุขภาพมากขึ้นจากเดิมเน้นตลาดแมส เพราะทุกวันนี้มีหลายแบรนด์ที่แข่งขันในตลาดนี้ คาดว่าจะเริ่มได้ไตรมาสสามนี้และหลังเสร็จแล้วตั้งเป้าเติบโตรายได้ 100% ซึ่งสฟรีเป็นแบรนด์รายได้หลักสัดส่วน 70% ของรายได้รวม ปีที่แล้วสฟรีมีรายได้รวมเติบโตเพียง 2.5% เท่านั้นเพราะผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ
นอกจากนั้นจะใช้งบอีก 50 ล้านบาทในการขยายสาขาใหม่ของหลายแบรนด์ เช่น “เกียวบายเกียวโรลเอ็น ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ลงทุน 10 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่แตกต่างจากสาขาเดิมที่มีแล้ว 4 แห่งที่ชื่อ “เกียวโรลเอ็น” นอกจากนั้นจะขยายร้าน “เทราโอกะเกี๊ยวซ่า” ที่สยามสแควร์วันอีก 1 สาขา จากเดิมมี 1 สาขาที่สยามพารากอน ซึ่งมียอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนหลังจากเปิดบริการเมื่อเดือน พ.ย. 2556 ที่เหลือก็จะเป็นแบรนด์อื่น
นอกจากนั้นปีนี้ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่เป็นขนมเอแคลร์สไตล์ฝรั่งเศสชื่อ “แพสเทล เปิดสาขาแรกที่สยามพารากอน เป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง และมองว่าขนมเอแคลร์สไตล์ใหม่นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปี 2557 บริษัทฯ จึงพัฒนาแบรนด์นี้ขึ้นมา ลงทุนสาขาละ 1.5 ล้านบาท วางเป้าหมายจะเปิดให้ได้ปีละ 10 สาขา ตั้งเป้าหมายเฉพาะแบรนด์แพสเทลมีรายได้รวม 120 ล้านบาทภายในปี 2558
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายร้านต่างๆ ไปในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย โดยไปพร้อมกับพันธมิตรค้าปลีก โดยเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยวเนื่องจากตลาดมีกำลังซื้อสูงจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เบื้องต้นสนใจที่ภูเก็ต จากปัจจุบันมีแบรนด์ “สฟรี” เปิดบริการที่พัทยาแล้ว
นายฤทธิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าภายในปีนี้จะทำรายได้รวมประมาณ 200 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 155 ล้านบาท ขณะที่ปี 2555 มีรายได้ 100 ล้านบาทและวางเป้าหมายจากนี้อีก 3 ปีจะมีรายได้รวม 500 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดร้านขนมหวานและไอศกรีมรายใหญ่ในไทย
ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้มีการเติบโตที่ทรงตัว เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงตั้งแต่กลางปี 2556 แต่ก็ยังไม่เห็นสัญญาณบ่งบอกว่าจะฟื้นตัว บริษัทฯ จึงต้องหันมาเน้นตลาดกลุ่มพรีเมียมแมส