ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดเฮาส์แบรนด์คึกคักตอบรับเศรษฐกิจแย่ กำลังซื้อหด ผู้บริโภคยอมรับคุณภาพมากขึ้น ค่ายใหญ่ต่างเร่งพัฒนาและสร้างความแตกต่างหวังดึงกำลังซื้อมากที่สุด “บิ๊กซี” ยกเครื่องเฮาส์แบรนด์ “เทสโก้” สร้างแบรนด์รุกตลาดใหม่ กระทั่งผนึกเครือข่ายในเครือเดียวกันอย่าง “เซ็นทรัล” ปูพรมเฮาส์แบรนด์สุดแรง
นายเนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีของไทยทำให้กำลังซื้อในช่วงที่ผ่านมาลดลง ผนวกกับปัญหาการเมืองที่วุ่นวาย ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังในการจับจ่ายสินค้ามากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจากนี้สถานการณ์จะเป็นเช่นไร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สินค้า “เฮาส์แบรนด์” (House Brand) ซึ่งเป็นสินค้าของผู้ประกอบการห้างค้าปลีกแต่ละแห่งมีอัตราการเติบโตของยอดขายอย่างมาก
นอกจากปัจจัยดังกล่าว ยังเป็นผลมาจากการที่ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคคนไทยเริ่มให้การยอมรับกับสินค้าเฮาส์แบรนด์มากขึ้นกว่าในอดีต แม้จะยังไม่มากเท่ากับในต่างประเทศก็ตาม แต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่สินค้าเฮาส์แบรนด์จะได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการเองก็จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาและยกระดับทั้งคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และการผลิตต่อตัวสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้มากขึ้นตามไปด้วยเพื่อสร้างความมั่นใจและการยอมรับให้มากขึ้นนั่นเอง ที่ผ่านมาผู้ประกอบการทุกรายก็ให้ความสำคัญต่อการยกะดับเฮาส์แบรนด์มากขึ้น
ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วบิ๊กซีก็ได้เริ่มทำการปรับกลยุทธ์เฮาส์แบรนด์ใหม่เช่นกันครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปีของการทำเฮาส์แบรนด์ โดย นางสาวผกาวดี ว่องคงคาเทพ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าเฮาส์แบรนด์ บิ๊กซี กล่าวว่า บิ๊กซีปรับกลยุทธ์และภาพลักษณ์ใหม่ของเฮาส์แบรนด์เริ่มจากการใช้ชื่อ Big C อย่างเดียวเป็นแบรนด์และยกเลิกการใช้โลโก้ของบิ๊กซีมาใช้กับเฮาส์แบรนด์ มีการปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่สวยงามทันสมัย รวมทั้งเพิ่มกลุ่มสินค้าและรายการสินค้ารวมเป็น 2,000 กว่ารายการ จากเดิมมี 1,000 กว่ารายการ และเพิ่มซัปพลายเออร์ผู้ผลิตรวมเป็นกว่า 250 รายจากเดิมมีประมาณ 100 กว่ารายเท่านั้น และปีนี้จะเพิ่มสินค้าใหม่อีกกว่า 100 รายการ
โดยรวมแล้วบิ๊กซีมีเฮาส์แบรนด์หลายแบรนด์หลายระดับ เช่น 1. แบรนด์ “แฮปปี้ บาท” จับกลุ่มล่าง ราคาถูกที่สุด 2. แบรนด์ “บิ๊กซี” ราคาต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับซัปพลายเออร์ 3. แบรนด์ “บิ๊กซี พรีเมียม” ราคาต่ำกว่า 10% 4. แบรนด์ “กาสิโนและโมโนปรีกูร์เมต์” เป็นเฮาส์แบรนด์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีขายเฉพาะช่องทางบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าเท่านั้น
“ปีนี้บิ๊กซีจะใช้งบตลาดรวม 30 ล้านบาทในการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดเฮาส์แบรนด์ในภาพลักษณ์ใหม่และหวังสร้างยอดขายเติบโตมากกว่า 10% จากปีที่แล้ว”
บิ๊กซียังระบุด้วยว่าเฮาส์แบรนด์บิ๊กซีมียอดขายดีและมากกว่าอินเตอร์แบรนด์ หรือซัพพลายเออร์แบรนด์บางตัวด้วย เช่น น้ำมันปรุงอาหารของบิ๊กซีมีแชร์ 40% ในสโตร์เมื่อเทียบกับน้ำมันทำอาหารทั้งกลุ่ม หรือข้าวสารมีแชร์ 30% ส่วนไข่มีแชร์มากกว่า 50%
ด้าน นางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการใหญ่อาวุโส สายบริหารจัดซื้อและการตลาด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร “ท็อปส์ มาร์เก็ต” กล่าวว่า จากการทำตลาดและเก็บข้อมูลของบริษัทฯพบว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของปี 2557 ยอดขายของสินค้าเฮาส์แบรนด์ หรือโอนแบรนด์ของบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากสินค้าที่ทำตลาด 4-5 แบรนด์ เช่น มายช้อยส์, คุกกิ้ง ฟอร์ ฟัน, ท็อปส์ เป็นต้น รวมมากกว่า 1,000 รายการสินค้าที่เป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ของบริษัทฯ ทั้งหมดทั้งที่ผลิตในไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ
“ปีนี้ท็อปส์มีแผนที่จะขยายไลน์เฮาส์แบรนด์ หรือโอนแบรนด์อีกหลายแบรนด์ โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสดที่ได้รับการตอบรับอย่างดีรวมทั้งสินค้าในกลุ่ม FMCG ด้วย เช่น แบรนด์สมาร์ทเตอร์ กลุ่มนอนฟู้ด แบรนด์มายช้อยส์ไทย กลุ่มอาหารกินเล่น”
นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า ปีนี้แฟมิลี่มาร์ทมีแผนที่จะเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ เข้ามาบริการในร้านอีกมาก ทั้งที่เป็นสินค้าทั่วไปของซัพพลายเออร์ สินค้าเฮาส์แบรนด์ สินค้ากับกลุ่มเซ็นทรัลด้วยกันเอง และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟมิลี่มาร์ทคอลเลกชั่น ประมาณ 100 รายการ สินค้าแฟมิลี่คิทเช่น สินค้าแฟมิลี่เบเกอรี่ และสินค้าขนมหวาน รวมทั้งการผนึกกำลังกับกลุ่มอาหารในเครือเซ็นทรัล เช่น มิสเตอร์โดนัท อานตี้แอนส์ ราเมง ในการจำหน่ายในร้านแฟมิลี่มาร์ทด้วย การร่วมมือกับท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น แบรนด์มายส์ช้อยส์ที่เป็นเฮาส์แบรนด์ของท็อปส์มาวางจำหน่ายในร้านแฟมิลี่มาร์ทด้วย สิ่งเหล่านี้จะทำให้แฟมิลี่มาร์ทมีสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่มากและแตกต่างจากคู่แข่งคอนวีเนียนสโตร์ด้วยกันเอง
ทางด้านรายใหญ่อย่าง “เทสโก้ โลตัส” ก็รุกหนักเช่นกัน นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล ผู้จัดการอาวุโสและหัวหน้าส่วนงานบริหารแบรนด์และสื่อสารการตลาด “เทสโก้ โลตัส” บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเท็ม จำกัด เปิดเผยว่า นอกจากสินค้าเฮาส์แบรนด์อุปโภคบริโภคทั่วไปที่ทำตลาดอยู่แล้ว ปีนี้เทสโก้จะรุกหนักเฮาส์แบรนด์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยเป็นตลาดที่ใหญ่มีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท แต่เดิมก็มีอยู่แล้วในบางกลุ่ม แต่ครั้งนี้จะเป็นการเปิดตลาดใหม่กับแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า “ไฮยาซอง” ที่เป็นแบรนด์ของเทสโก้เองที่เปิดตัวในไทยเป็นแห่งแรกในโลกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง
สินค้าในช่วงแรกที่จะทำตลาดมี 3 กลุ่มคือ 1.ทีวี 2.เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดเล็ก เช่น เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องปั่นน้ำผลไม้ และ 3.อุปกรณ์สื่อสารและกัดเจ๊ทต่างๆ โดยสินค้าทั้งหมดใช้อุปกรณ์และวัสดุหลักจากโรงงานที่ผลิตให้กับอินเตอร์แบรนด์อยู่แล้วและนำเข้าประกอบในไทยส่วนราคาของไฮยาซองต่ำกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับแบรนด์ซัพพลายเอร์ทั่วไป โดยจะจำหน่ายเฉพาะที่เทสโก้โลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ส่วนอนาคตอาจจะวางในเครือข่ายโมเดลอื่นของเทสโก้ก็เป็นได้
“สินค้าตัวหลักที่เริ่มทำตลาดตอนนี้คือทีวี เพื่อตอบรับกับตลาดทีวีดิจิตอลและการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะเริ่มกลางปีนี้ด้วย โดยมีทีวี 3 รุ่นคือ แอลอีดีขนาดใหญ่ 42 นิ้ว ราคา 20,990 บาท ขนาด 47 นิ้ว ราคา 27,990 บาท และขนาด 55 นิ้ว ราคา 32,990 บาท รับประกัน 3 ปี ซึ่งช่วงปีแรกจะใช้งบตลาด 100 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย 3 ปีจากนี้จะมีส่วนแบ่งทีวี 10% จากตลาดรวมทีวีประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดรวมเติบโต 10%”