ค่ายน้ำดำสาดสงกรานต์แรง เปิดศึกยื้อแย่งชิงสปอนเซอร์พื้นที่หลักจัดงาน “เอส” มาแรง ยึด 5 พื้นที่หลัก คว้าถนนข้าวสารไปครอง ด้านโค้กยังยึดครองที่พระประแดงพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่อ
เทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงปีนี้นอกจากการแข่งขันของธุรกิจต่างๆ ที่จะร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดคนให้มาที่สถานที่ของตัวเองแล้ว คงหนีไม่พ้นการแข่งขันแย่งกันเป็นสปอนเซอร์ร่วมจัดงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม โดยเฉพาะ “กลุ่มน้ำดำ”
ก่อนหน้านี้ศึกแย่งชิงสปอนเซอร์สงกรานต์นี้มักจะสู้รบปรบมือกันระหว่างสองค่ายใหญ่น้ำดำคือ สีแดงคือ “โค้ก” กับน้ำเงินคือ “เป๊ปซี่” เท่านั้น และสู้กันแบบถึงพริกถึงขิงในการแย่งชิงพื้นที่กัน โดยที่ “บิ๊กโคล่า” น้ำดำอีกค่ายก็ไม่ชัดเจนมากนักในเรื่องนี้ แต่ก็อาจจะมีเป็นสปอนเซอร์บ้างประปรายในต่างจังหวัดหรือที่อื่นที่ไม่ได้เป็นไฮไลต์ หรือแลนด์มาร์กแต่อย่างใด
ทว่า ในปีนี้เครื่องดื่ม “เอส” น้องใหม่สัญชาติไทยแท้ๆ ในวงการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท ก็เปิดศึกชนกับรุ่นพี่อย่างไม่เกรงกลัว และดูเหมือนจะมาแรงกว่าด้วยซ้ำไป
การเข้าช่วงชิงพื้นที่จัดงานสงกรานต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟนี้ก็เพื่อที่จะสร้างแบรนด์และตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในใจของผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นบันไดก้าวหนึ่งที่จะรุกสู่ต่างประเทศได้อย่างดีด้วย เพราะเทศกาลสงกรานต์นี้มีการถ่ายทอดสดงานไปทั่วประเทศและเป็นเทศกาลที่คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ดังนั้นการที่เอาแบรนด์เข้าไปเกาะเกี่ยวกับเทศกาลนี้ย่อมทำให้แบรนด์ของตัวเองแพร่ภาพไปไกลได้เช่นกัน และ “เอส” เองก็คิดเช่นนั้น จึงต้องกระโดดเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วย
เพราะหากทำได้ก็จะทำให้ตลาดรู้จักแบรนด์ “เอส” มากขึ้นแบบไม่ต้องเสียงบประมาณโฆษณาให้มากมายเกินจำเป็น
นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ “เอส” กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เอสใช้งบประมาณการตลาด 20-30 ล้านบาทจากงบตลาดรวมครึ่งปีแรก 300 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมและเป็นสปอนเซอร์งานสงกรานต์ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 5 งานหลัก ประกอบด้วย ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น พัทยา อุดรธานี จันทบุรี
โดยจะมีการจัดงาน “สงกรานต์มันส์...สาดสุดขั้ว” ตลอด 3 วัน 3 คืน ด้วยการจัดสเตชันการเล่นน้ำที่ถนนข้าวสาร และสไลเดอร์สุดมันที่ถนนข้าวเหนียว พร้อมทั้งจัดกิจกรรมซื้อเอสพร้อมกระติกน้ำดีไซน์สุดเก๋ นอกจากนั้นมีการออกแพกเกจจิ้งใหม่ 2 ขนาดคือ ขวดแก้ว 16 ออนซ์ ราคา 9 บาท หรือเรียกว่า เอสเบิ้ม และขวดพีอีที ขนาด 1.6 ลิตร ราคา 25 บาท หรือเอสยักษ์ในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานพิ่มเติมว่า การแข่งขันชิงพื้นที่การเป็นสปอนเซอร์สงกรานต์เป็นหนึ่งในหลายกลยุทธ์หลักของเครื่องดื่มน้ำดำ เช่นเดียวกับการแย่งชิงสปอนเซอร์จัดงานเคานต์ดาวน์ช่วงปีใหม่ หรือแม้แต่การแย่งชิงเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในการจำหน่ายในเชนธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านฟาสต์ฟูด โรงแรม เป็นต้น
“เอส” เพิ่งวางตลาดได้ปีเศษเอง แต่สงกรานต์ปีนี้ “เอส” ได้เป็นสปอนเซอร์ถนนข้าวสารเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว จากเดิมที่ค่าย “โค้ก” จะผูกขาดมาตลอด ที่ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่นก็เป็นปีแรกที่ได้เป็นสปอนเซอร์ ที่อุดรธานีนั้นเริ่มจัดกับศูนย์การค้ายูดีทาวน์ สำหรับที่พัทยาเดิมก็เป็นค่าย “เป๊ปซี่” ที่เป็นสปอนเซอร์งาน
เท่ากับว่าในปีนี้ “เอส” สามารถเจาะเข้าได้หลายพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ใหม่กับพื้นที่เดิมของคู่แข่ง
นายประสิทธิ์ เจียรไนสกุล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวว่า ปีนี้มีบริษัท เสริมสุข จำกัด เจ้าของเครื่องดื่มแบรนด์เอส เป็นสปอนเซอร์หลักจัดงานสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายนนี้ โดยใช้งบจัดงานกว่า 3 ล้านบาท โดยคาดว่าตลอดการจัดงานจะมีผู้เข้าร่วมเทศกาลมากกว่า 1 แสนคน ช่วง 4 วัน และคาดว่าจะมีเงินสะพัดมากกว่า 200 ล้านบาท
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อนและรวมถึงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งถือเป็นหน้าขายที่สำคัญช่วงหนึ่งของเครื่องดื่ม
นางสาวประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อนและสงกรานต์ของทุกปีเป็นช่วงเวลาที่โค้กจะเชิญชวนชาวไทยให้ออกมา และสนุกซ่าไปกับกิจกรรมสร้างความสดชื่นผ่อนคลายร้อนของเราอยู่เสมอ ปีนี้โค้กได้เตรียมมอบประสบการณ์ซ่าสดชื่นแก่ผู้บริโภคเหมือนเช่นเคยกับกิจกรรม ‘สาดซ่า สาดสนุก’ ซึ่งเป็นกิจกรรมการตลาดสุดยิ่งใหญ่ที่เราได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมาโดยตลอด
โดยจัดเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญประจำปีที่โค้กได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งสื่อโทรทัศน์และวิทยุ รวมถึงค่ายดนตรีและศิลปินนักร้องชั้นนำ เพื่อร่วมกันส่งความซ่า ความสุข ความสดชื่น ให้คนไทยทั่วประเทศ
“ทั้งนี้ เราได้เตรียมจัดกิจกรรมมากมายฉลองเทศกาลปีใหม่ไทยกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น “ปาร์ตี้โฟมสงกรานต์” มีกองทัพศิลปินนักร้องชื่อดังจากเวทีคุณภาพ ได้แก่ ‘เดอะ วอยส์’ ‘เดอะ สตาร์’ และ ‘โค้ก มิวสิค อวอร์ดส’ รวมถึงการจัดบูทกิจกรรมทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ บางแสน และสมุทรปราการ
นอกจากนี้ เครื่องดื่มโค้ก ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการการแข่งขันฟุตบอลโลก เรายังได้เพิ่มดีกรีความสนุกและร้อนแรงเข้ากับบรรยากาศ โดยมอบประสบการณ์ฉลองสงกรานต์ในรูปแบบโค้กเท่านั้นที่ทำได้ ให้คอโค้กและแฟนบอลชาวไทยได้สนุกสนานไปกับขบวนพาเหรดสไตล์บราซิเลียน เป็นการเชื่อมโยงความสนุกของทั้งเทศกาลสงกรานต์และฟุตบอลโลกมาไว้รวมกันได้อย่างลงตัว”
นางสาวประไพภักตร์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่หลักที่โค้กเป็นสปอนเซอร์จัดงานสงกรานต์ปีนี้คือ สวนสยาม กรุงเทพฯ, เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ, เอเชียทีค กรุงเทพฯ, ไอโมบายสเตเดียม บุรีรัมย์, ประตูท่าแพ เชียงใหม่, บางแสน ชลบุรี และพระประแดง สมุทรปราการ
ส่วนค่ายเป๊ปซี่ปีนี้ก็ยังคงใช้กลยุทธ์การเป็นสปอนเซอร์สงกรานต์เช่นกัน แต่อาจจะไม่เต็มที่เหมือนทุกปีมากนัก เนื่องจากว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทัพและการเริ่มต้นทำตลาดเองใหม่ หลังจากที่ค่ายเสริมสุขกับเป๊ปซี่ตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว
เทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงปีนี้นอกจากการแข่งขันของธุรกิจต่างๆ ที่จะร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดคนให้มาที่สถานที่ของตัวเองแล้ว คงหนีไม่พ้นการแข่งขันแย่งกันเป็นสปอนเซอร์ร่วมจัดงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม โดยเฉพาะ “กลุ่มน้ำดำ”
ก่อนหน้านี้ศึกแย่งชิงสปอนเซอร์สงกรานต์นี้มักจะสู้รบปรบมือกันระหว่างสองค่ายใหญ่น้ำดำคือ สีแดงคือ “โค้ก” กับน้ำเงินคือ “เป๊ปซี่” เท่านั้น และสู้กันแบบถึงพริกถึงขิงในการแย่งชิงพื้นที่กัน โดยที่ “บิ๊กโคล่า” น้ำดำอีกค่ายก็ไม่ชัดเจนมากนักในเรื่องนี้ แต่ก็อาจจะมีเป็นสปอนเซอร์บ้างประปรายในต่างจังหวัดหรือที่อื่นที่ไม่ได้เป็นไฮไลต์ หรือแลนด์มาร์กแต่อย่างใด
ทว่า ในปีนี้เครื่องดื่ม “เอส” น้องใหม่สัญชาติไทยแท้ๆ ในวงการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท ก็เปิดศึกชนกับรุ่นพี่อย่างไม่เกรงกลัว และดูเหมือนจะมาแรงกว่าด้วยซ้ำไป
การเข้าช่วงชิงพื้นที่จัดงานสงกรานต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟนี้ก็เพื่อที่จะสร้างแบรนด์และตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในใจของผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นบันไดก้าวหนึ่งที่จะรุกสู่ต่างประเทศได้อย่างดีด้วย เพราะเทศกาลสงกรานต์นี้มีการถ่ายทอดสดงานไปทั่วประเทศและเป็นเทศกาลที่คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ดังนั้นการที่เอาแบรนด์เข้าไปเกาะเกี่ยวกับเทศกาลนี้ย่อมทำให้แบรนด์ของตัวเองแพร่ภาพไปไกลได้เช่นกัน และ “เอส” เองก็คิดเช่นนั้น จึงต้องกระโดดเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วย
เพราะหากทำได้ก็จะทำให้ตลาดรู้จักแบรนด์ “เอส” มากขึ้นแบบไม่ต้องเสียงบประมาณโฆษณาให้มากมายเกินจำเป็น
นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ “เอส” กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เอสใช้งบประมาณการตลาด 20-30 ล้านบาทจากงบตลาดรวมครึ่งปีแรก 300 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมและเป็นสปอนเซอร์งานสงกรานต์ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 5 งานหลัก ประกอบด้วย ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น พัทยา อุดรธานี จันทบุรี
โดยจะมีการจัดงาน “สงกรานต์มันส์...สาดสุดขั้ว” ตลอด 3 วัน 3 คืน ด้วยการจัดสเตชันการเล่นน้ำที่ถนนข้าวสาร และสไลเดอร์สุดมันที่ถนนข้าวเหนียว พร้อมทั้งจัดกิจกรรมซื้อเอสพร้อมกระติกน้ำดีไซน์สุดเก๋ นอกจากนั้นมีการออกแพกเกจจิ้งใหม่ 2 ขนาดคือ ขวดแก้ว 16 ออนซ์ ราคา 9 บาท หรือเรียกว่า เอสเบิ้ม และขวดพีอีที ขนาด 1.6 ลิตร ราคา 25 บาท หรือเอสยักษ์ในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานพิ่มเติมว่า การแข่งขันชิงพื้นที่การเป็นสปอนเซอร์สงกรานต์เป็นหนึ่งในหลายกลยุทธ์หลักของเครื่องดื่มน้ำดำ เช่นเดียวกับการแย่งชิงสปอนเซอร์จัดงานเคานต์ดาวน์ช่วงปีใหม่ หรือแม้แต่การแย่งชิงเป็นเอ็กซ์คลูซีฟในการจำหน่ายในเชนธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านฟาสต์ฟูด โรงแรม เป็นต้น
“เอส” เพิ่งวางตลาดได้ปีเศษเอง แต่สงกรานต์ปีนี้ “เอส” ได้เป็นสปอนเซอร์ถนนข้าวสารเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว จากเดิมที่ค่าย “โค้ก” จะผูกขาดมาตลอด ที่ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่นก็เป็นปีแรกที่ได้เป็นสปอนเซอร์ ที่อุดรธานีนั้นเริ่มจัดกับศูนย์การค้ายูดีทาวน์ สำหรับที่พัทยาเดิมก็เป็นค่าย “เป๊ปซี่” ที่เป็นสปอนเซอร์งาน
เท่ากับว่าในปีนี้ “เอส” สามารถเจาะเข้าได้หลายพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ใหม่กับพื้นที่เดิมของคู่แข่ง
นายประสิทธิ์ เจียรไนสกุล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวว่า ปีนี้มีบริษัท เสริมสุข จำกัด เจ้าของเครื่องดื่มแบรนด์เอส เป็นสปอนเซอร์หลักจัดงานสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายนนี้ โดยใช้งบจัดงานกว่า 3 ล้านบาท โดยคาดว่าตลอดการจัดงานจะมีผู้เข้าร่วมเทศกาลมากกว่า 1 แสนคน ช่วง 4 วัน และคาดว่าจะมีเงินสะพัดมากกว่า 200 ล้านบาท
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อนและรวมถึงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งถือเป็นหน้าขายที่สำคัญช่วงหนึ่งของเครื่องดื่ม
นางสาวประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อนและสงกรานต์ของทุกปีเป็นช่วงเวลาที่โค้กจะเชิญชวนชาวไทยให้ออกมา และสนุกซ่าไปกับกิจกรรมสร้างความสดชื่นผ่อนคลายร้อนของเราอยู่เสมอ ปีนี้โค้กได้เตรียมมอบประสบการณ์ซ่าสดชื่นแก่ผู้บริโภคเหมือนเช่นเคยกับกิจกรรม ‘สาดซ่า สาดสนุก’ ซึ่งเป็นกิจกรรมการตลาดสุดยิ่งใหญ่ที่เราได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมาโดยตลอด
โดยจัดเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญประจำปีที่โค้กได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งสื่อโทรทัศน์และวิทยุ รวมถึงค่ายดนตรีและศิลปินนักร้องชั้นนำ เพื่อร่วมกันส่งความซ่า ความสุข ความสดชื่น ให้คนไทยทั่วประเทศ
“ทั้งนี้ เราได้เตรียมจัดกิจกรรมมากมายฉลองเทศกาลปีใหม่ไทยกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น “ปาร์ตี้โฟมสงกรานต์” มีกองทัพศิลปินนักร้องชื่อดังจากเวทีคุณภาพ ได้แก่ ‘เดอะ วอยส์’ ‘เดอะ สตาร์’ และ ‘โค้ก มิวสิค อวอร์ดส’ รวมถึงการจัดบูทกิจกรรมทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ บางแสน และสมุทรปราการ
นอกจากนี้ เครื่องดื่มโค้ก ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการการแข่งขันฟุตบอลโลก เรายังได้เพิ่มดีกรีความสนุกและร้อนแรงเข้ากับบรรยากาศ โดยมอบประสบการณ์ฉลองสงกรานต์ในรูปแบบโค้กเท่านั้นที่ทำได้ ให้คอโค้กและแฟนบอลชาวไทยได้สนุกสนานไปกับขบวนพาเหรดสไตล์บราซิเลียน เป็นการเชื่อมโยงความสนุกของทั้งเทศกาลสงกรานต์และฟุตบอลโลกมาไว้รวมกันได้อย่างลงตัว”
นางสาวประไพภักตร์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่หลักที่โค้กเป็นสปอนเซอร์จัดงานสงกรานต์ปีนี้คือ สวนสยาม กรุงเทพฯ, เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ, เอเชียทีค กรุงเทพฯ, ไอโมบายสเตเดียม บุรีรัมย์, ประตูท่าแพ เชียงใหม่, บางแสน ชลบุรี และพระประแดง สมุทรปราการ
ส่วนค่ายเป๊ปซี่ปีนี้ก็ยังคงใช้กลยุทธ์การเป็นสปอนเซอร์สงกรานต์เช่นกัน แต่อาจจะไม่เต็มที่เหมือนทุกปีมากนัก เนื่องจากว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทัพและการเริ่มต้นทำตลาดเองใหม่ หลังจากที่ค่ายเสริมสุขกับเป๊ปซี่ตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว
