xs
xsm
sm
md
lg

สศอ.เตือนเร่งจัดการน้ำในอุตฯ อาหารส่งออกหลังไทยติดโผใช้น้ำมาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกราม (สศอ.) เร่งร่วมมือกับสถาบันอาหารดำเนินการศึกษาการจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวทาง Water Footprint ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออก คาดช่วยยกระดับผู้ประกอบการ และลดข้อกีดกันทางการค้าเมื่อพบว่าไทยใช้น้ำมากติดอันดับต้นๆ โลก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อการส่งออก

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั่วโลกได้หันมาให้ความสำคัญต่อทรัพยากรน้ำ โดยพัฒนาเครื่องมือวัดร่องรอยการใช้น้ำ หรือ Water Footprint : WF ขึ้น ซึ่งหลายประเทศนำมาเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมในหลายสินค้าแล้ว ดังนั้น สศอ.จึงร่วมกับสถาบันอาหารดำเนินโครงการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนด้วย Water Footprint ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออก โดยจะยกระดับผู้ประกอบการอาหารส่งออกไม่น้อยกว่า 24 ราย ได้ดำเนินการจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวทาง WF

“ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการรับสมัครและอยู่ระหว่างการเข้าให้การปรึกษาขั้นต้นและคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและประสงค์เข้าร่วมโครงการ โดยเมื่อดำเนินโครงการจะมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการสามารถใช้แนวทาง WF ไปประยุกต์ใช้ประเมินปริมาณการใช้น้ำ และจัดทำแนวทางการใช้น้ำในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะสามารถระบุ WF บนฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารไปยังผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าสินค้าของบริษัทมีการใช้น้ำมากน้อยเพื่อให้ไทยได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ” นายสมชายกล่าว

ทั้งนี้ ประเทศที่มีปริมาณและอัตราการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของประชากร เศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ได้แก่ จีน และสหรัฐอเมริกา โดยจีนมีค่า WF เฉลี่ยที่ 1,071,000 ลิตรต่อปี ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีค่า WF เฉลี่ยอยู่ที่ 2,842,000 ลิตรต่อปี สำหรับไทยถูกจัดเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่ใช้น้ำมากที่สุด รองจาก อินเดีย จีน สหรัฐอเมริกา ปากีสถาน และญี่ปุ่น โดยน้ำที่นำไปใช้ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อการส่งออกเฉลี่ย 2,131 ลูกบาศก์เมตรต่อคนต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น