“อาร์เอส” ส่งบอลโลกเดินตามเกมเดิมที่วางไว้ หลังศาลปกครองตัดสินเพิกถอนกฎมัสต์แฮฟ ยันคำตอบเดิมถ่ายสด 22 คู่ในฟรีทีวี ที่เหลือดูอย่างมีเงื่อนไข เตรียมปล่อยกล่องบอลโลกเร็วสุดกลางเดือนนี้ มั่นใจยอดขายกล่องที่ 1 ล้านกล่องเช่นเดิม แจงปัญหาช่อง8 ยังไม่ได้รับใบอนุญาตดิจิตอลทีวี ต้องยืนยันผังใหม่เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับบอลโลกแต่อย่างใด 24 เม.ย.นี้พร้อมออนแอร์ในระบบดิจิตอลทีวีแน่นอน
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากคำตัดสินของศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา มีมติให้เพิกถอนประกาศสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือที่เรียกว่ากฎมัสต์แฮฟ (Must Have) ข้อ 3 ลำดับที่ 7 การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final) เพราะเป็นกฎที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่มีผลกระทบต่อบุคคลผู้ทรงสิทธิโดยชอบที่มีอยู่ก่อนประกาศออกใช้บังคับ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศดังกล่าวใช้บังคับ
เนื่องด้วยเป็นเหตุให้ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนลบรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือ บมจ.อาร์เอส ในฐานะผู้ครอบครองสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 หรือผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหายนั้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่ออาร์เอส เพราะจะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวทางบริหารสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014
โดยขอยืนยันว่าบริษัทตระหนักและคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักเสมอบนพื้นฐานการทำธุรกิจด้วยคุณธรรม จริยธรรม และความถูกต้อง ตลอดจนการสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทฯ ยึดถือและปฏิบัติมาตลอด
ดังนั้น หลังจากนี้ทางบริษัทจะได้เดินตามแผนธุรกิจเดิมที่วางไว้ คือ ถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี 22 แมตช์ทางฟรีทีวีช่อง 7 และช่อง 8 ในคู่สำคัญๆ ทั้งในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศให้รับชมพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ รวมถึงพิธีเปิดและพิธีปิด และหากต้องการรับชมทั้งหมด 64 คู่จะต้องรับชมแบบมีเงื่อนไขทางช่องเวิลด์คัพ ผ่านแพลตฟอร์ม กล่องบอลโลก ราคา 1,590 บาท ที่จะจำหน่ายกลางเดือน เม.ย.นี้ และกล่อง PSI O2 ในระบบเอชดี มั่นใจว่ารายได้จากบอลโลกยังเป็นไปตามเป้าที่ 650 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นรายได้จากการขายสปอนเซอร์ 80% และรายได้จากการขายซับไลเซนส์อีก 20%
“อาร์เอสจะดำเนินตามคำตัดสินของศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นไปตามแผนการตลาดที่วางไว้ตั้งแต่ต้น คือ ในเรื่องของการรับชมทางฟรีทีวีอยู่ที่ 22 คู่ และการจำหน่ายกล่องบอลโลกในเดือน เม.ย.นี้ อย่างเร็วที่สุดในอาทิตย์หน้าที่จะถึงหรือไม่เกินช่วงสงกรานต์ มั่นใจว่ายอดขายยังน่าจะทำได้ 1 ล้านกล่อง โดยกฎมัสต์แฮฟในเรื่องห้ามขายกล่องบอลโลกนั้นไม่มีผล เพราะยืนยันตามคำตัดสินของศาลปกครองกลาง อาร์เอสจึงขายกล่องบอลโลกได้ และแม้ว่าจะมีการอุทธรณ์จากทาง กสท.ในขั้นตอนต่อไป และคดียังไม่ถึงที่สุด แต่วันนี้อาร์เอสจะยืนยันคำสั่งศาลปกครองกลางที่ออกมาเป็นสำคัญ ที่เหลือให้เป็นเรื่องของศาล”
อย่างไรก็ตาม วานนี้ทาง กสทช.ได้มีการประชุมอนุมัติให้ใบอนุญาตดิจิตอลทีวี 23 ช่องมีเพียงช่อง 8 ของอาร์เอสเท่านั้นที่ยังติดปัญหา ซึ่งนายสุรชัยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วยว่า กสทช.เพียงต้องการคำยืนยันผังรายการใหม่ที่ทางอาร์เอสเสนอเข้าไปเท่านั้น โดยจะมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 22 คู่เข้ามา ซึ่งวันนี้ทางบริษัทจะทำหนังสือยืนยันไปยัง กสทช. คาดว่าการประชุมครั้งต่อไปของ กสทช. ช่อง 8 จะได้รับใบอนุญาติดิจิตอลทีวี และออกอากาศในระบบดิจิตอลในวันที่ 24 เม.ย.นี้ เช่นเดียวกับ 23 ช่องแน่นอน