บาฟส์ฟุ้งปีนี้รายได้โตกว่า 10% และกำไรสุทธิโต 5% จากปีก่อน เหตุอัตรากำไรวูบต่ำกว่า 30% หลังปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานโตปกติ 3-4% ทุ่ม 1.2 พันล้านบาทสร้างถังน้ำมันเพิ่มและลงทุนระบบท่อ รองรับสุวรรณภูมิเฟส 2
นายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในไตรมาส 1/2557 อยู่ที่ 1.1 พันล้านลิตร โตขึ้น 4.5% แต่รายได้จะโตขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานแก่สายการบินต้นทุนต่ำเพิ่มขึ้นในสนามบินดอนเมือง โดยไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในปีนี้ที่บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 6% แต่หากรวมบริษัทย่อย คือบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) จะมีรายได้รวมโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3.13 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิโตขึ้น 5% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.05 พันล้านบาท เป็นผลจากปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานโต 3-4% จากปีก่อน และ FPT คาดว่าจะมีกำไรในปีนี้ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท
“อัตรากำไรในปีนี้จะลดลงจากปีก่อนที่ 33.6% เหลือไม่เกิน 30% ซึ่งเป็นระดับปกติ เนื่องจากปีนี้ไม่มีรายการพิเศษจากเจพี วัน ส่วนการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินคงต้องรอดูว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่ขณะนี้เที่ยวบินยังเป็นไปตามปกติอยู่”
นายฉัตรธัยกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท ใช้ในการสร้างถังน้ำมันเพิ่ม 4 ใบ แบ่งเป็นถังน้ำมันดีเซลเพื่อการเช่า และถังบรรจุน้ำมันเจ็ต รวมทั้งบริษัทลูกจะลงทุนระบบท่อเฟส 2 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมา คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการเฟส 2
สำหรับการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่สนามบินอื่นๆ นอกเหนือจากดอนเมือง และสุวรรณภูมินั้น ปัจจุบันบริษัทให้บริการอยู่ที่สนามบินของเอกชน เช่น สนามบินสมุย สนามบินสุโขทัย และกำลังเจรจาที่จะให้บริการสนามบินที่ตราด รวมทั้งสนามบินที่เชียงใหม่และภูเก็ต คงต้องเจรจากับ ทอท.ก่อน เนื่องจากปัจจุบัน ปตท.เป็นผู้บริการอยู่เพียงรายเดียว
ส่วนการศึกษาความเป็นไปได้ในการวางท่อน้ำมันจากคลังน้ำมันบางปะอินไปยังทางภาคเหนือและสร้างคลังน้ำมันที่พิษณุโลกตามนโยบายของรัฐที่ต้องการให้คนต่างจังหวัดใช้น้ำมันในราคาถูกนั้นคงต้องรอรัฐบาลใหม่ เนื่องจากปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ ทำให้นโยบายนี้ต้องหยุดชะงักไป ซึ่งในแง่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดี