ธุรกิจอาหารสัตว์ไทยครองรองแชมป์ตลาดโลก

ไทยโชว์ศักยภาพจัดงานระดับโลก “VICTAM ASIA 2014” แสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยง และอุตสาหกรรมการแปรรูปธัญพืชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดเงินสะพัดร่วม 2 พันล้านบาท มั่นใจไทยยังผงาดในตลาดอาหารสัตว์สากล เหตุพื้นฐานการผลิตแข็งแกร่ง มีสัดส่วนส่งออก 6% ของมูลค่าตลาดโลก 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติและผู้บริหารโครงการ งานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยง และอุตสาหกรรมการแปรรูปธัญพืชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (VICTAM ASIA 2014) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย.ศกนี้ ณ ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค เปิดเผยว่า จากข้อมูลของ Euromonitot International ระบุว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลกส่งผลให้ในปี 2556 อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ทั่วโลกมีอัตราการเติบโต 4% เท่ากับอัตราการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียยังมีพื้นฐานการผลิตและบริโภคที่แข็งแกร่ง โดยตั้งแต่ปี 2553-2558 อินเดียมีอัตราการเติบโตของยอดขายอาหารสัตว์เป็นอันดับหนึ่งคือ 13.8% คิดเป็นมูลค่า 820 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ไทยและจีนมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 8.3% และ 7.7% คิดเป็น 456 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 476 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ จึงหมายความว่าในปี 2558 ไทยและจีนจะมียอดขายอาหารสัตว์รวมกันสูงกว่าอินเดียคือ 932 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เทรนด์ของอุตสาหกรรมดังกล่าวมุ่งสู่ภูมิภาคเอเชียอย่างแน่นอน

“ปัจจุบันแนวโน้มความต้องการอาหารสัตว์มีเพิ่มขึ้น เพราะแนวโน้มจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนและอินเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการผลิตอาหารสัตว์ของโลกเพิ่มขึ้น 14% โดยปริมาณการผลิตอาหารสัตว์ทั่วโลกในแต่ละปีมีประมาณ 1 พันล้านตัน สร้างอัตราการหมุนเวียนซื้อขายในแต่ละปีประมาณ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ประเทศไทยมีปริมาณการใช้อาหารสัตว์ในปี 2556 ประมาณ 15.5 ล้านตัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านตันในปี 2557”

ทางด้าน นายบุญธรรม อร่ามศิริวัฒน์ เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผยว่า ความสามารถในการผลิตอาหารสัตว์ของไทยเพื่อการส่งออกคิดเป็น 6% ของมูลค่าตลาดโลก ในขณะที่แนวโน้มความต้องการอาหารสัตว์ในตลาดโลกมีทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องพอๆ กับอุตสาหกรรมด้านการผลิตแป้งชนิดต่างๆ ที่รองรับความต้องการของการผลิตอาหารอบสไตล์ตะวันตก เช่น ขนมปัง ขนมอบ และคุกกี้ เป็นต้น

การจัดงาน VICTAM ASIA 2014 จึงมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการได้ทราบถึงทิศทางการรับมือกับความต้องการอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ทั้งยังเป็นการยกระดับและเพิ่มศักยภาพการผลิตและการค้าด้านอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของไทยให้เป็นศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าการจัดงานจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของไทย และยังเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี ความเคลื่อนไหว และแนวความคิดใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์นานาชาติ เพราะเชื่อมั่นว่าพื้นฐานภาคการผลิตของไทยยังแข็งแกร่งสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยเฉพาะแหล่งวัตถุดิบ และทักษะฝีมือแรงงาน

อนึ่ง การจัดงาน VICTAM ASIA 2014 ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 4 จากการจัดครั้งแรกในปี 2008 ซึ่งมีการจัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของไทย และยังเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจให้ผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี ความเคลื่อนไหว และแนวความคิดใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์นานาชาติ โดยมีบริษัทเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 200 บริษัทจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน มาเลเซีย ไทย และอื่นๆ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน และมีจำนวนเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท