ผู้บริหาร SPCG คาดกวาดรายได้ปีนี้พุ่ง 3.5 พันล้าน กำไร 50% หลังปั้นโซลาร์ฟาร์มเสร็จครบ 36 โครงการ คาดเริ่มจ่ายเงินปันผลงวดแรกหลังปรับโครงสร้างหนี้เสร็จไตรมาส 2
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 57 ไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านบาท จากปี 56 ที่มีรายได้ 2.5 พันล้านบาท โดยรายได้ที่เติบโตขึ้นจะมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม 23 โครงการที่รับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี และในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 13 โครงการ จะทำให้มีโครงการรวมเป็น 36 โครงการ มีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 260 เมกะวัตต์ ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ใกล้เคียง 50 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมามีอัตรากำไรสุทธิที่ 25 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งหน้าไปสู่การพัฒนาโครงการทั้งในและต่างประเทศ สำหรับโครงการในต่างประเทศนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสการลงทุนทั้งในตะวันออกกลาง พม่า ลาว กัมพูชา และญี่ปุ่น
“หลังจากนี้โครงการต่างๆ ของเราจะมีการเติบโตไปตามค่าไฟที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกๆ ปี เนื่องจากพลังงานหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าคือก๊าซที่คาดการณ์ว่าจะหมดจากประเทศไทยในอีก 6-7 ปีข้างหน้า นอกจากนี้เรายังมีการศึกษาที่จะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งเรามองว่าประเทศที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ ญี่ปุ่น เพราะปัจจุบันเราก็มีพันธมิตรอยู่แล้ว”
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะออกเครื่องมือทางการเงินเพื่อที่จะนำมาคืนหนี้ส่วนทุนมูลค่า 3 พันล้านบาท โดยมองไว้ 3 รูปแบบ คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ออกหุ้นกู้ และหาพันธมิตร โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 25 เม.ย. 57 ซึ่งหลังจากที่หาข้อสรุปได้คาดว่าจะสามารถคืนหนี้ส่วนทุนเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 2/57 หลังจากที่สามารถคืนหนี้ส่วนทุนได้ทั้งหมดบริษัทฯ ก็จะสามารถมารถจ่ายปันผลได้ ซึ่งบริษัทฯ จะมีการพิจารณาจ่ายปันผลในงวดปี 57
“เราอยู่ระหว่างการหาแนวทางในการออกตราสารทางการเงินเพื่อมาใช้หนี้ส่วนทุนมูลค่า 3 พันล้านบาท เราคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งหากเราได้ข้อสรุปแล้วเราก็จะชำระหนี้ส่วนทุนเสร็จสิ้นในไตรมาส 2 และเราก็จะพิจารณาเพื่อจ่ายเงินปันผลในงวดปี57” น.ส.วันดีกล่าว