“ไฟว์สตาร์” รื้อหนังเก่าขาย หวนคืนรับจ้างผลิตละคร

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไฟว์สตาร์” ทุ่มงบ 200 ล้านบาทปัดฝุ่นภาพยนตร์ในกรุกว่า 260 เรื่อง รีมาสเตอร์เป็นระบบ HD หวังต่อยอดสร้างรายได้สู่ดิจิตอลทีวี พร้อมหวนคืนโปรดักชันผลิตละครอีกครั้งหลังเลิกไป 6 ปี ฟากภาพยนตร์ยังลงทุนต่อเนื่องปีละ 3-4 เรื่อง มั่นใจคว้ารายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ จากปีก่อนปิดที่ 200 ล้านบาท

นางสาวอภิรดี เอี่ยมพึ่งพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะเน้นต่อยอดธุรกิจภาพยนตร์มาเป็นการบริหารคอนเทนต์ภาพยนตร์ที่มีกว่า 260 เรื่องที่สร้างมาตลอด 41 ปี โดยได้ทำการรีมาสเตอร์จากระบบ SD เป็น HD ให้ครบทั้งหมดในปีนี้ จากปีที่ผ่านมาทำไปแล้วกว่า 100 เรื่องภายใต้งบลงทุนที่วางไว้ 200 ล้านบาท รวมถึงละครอีกกว่า 18 เรื่อง มินิซีรีส์อีก 2 เรื่อง รวม 600 ชั่วโมง

เนื่องจากมองเห็นโอกาสในการขายคอนเทนต์ภาพยนตร์สูงมากหลังการเกิดของดิจิตอลทีวีกว่า 24 ช่องในปีนี้ที่ส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมและต้องการคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มเข้าไปพูดคุยไว้แล้วหลายช่อง ตั้งเป้ารายได้ไว้กว่า 500 ล้านบาท

บริษัทยังได้เพิ่มทีมโปรดักชนเพื่อผลิตละคร “ซิตคอม” ขึ้นมาภายใต้การทำงานของบริษัทในเครือชื่อ “สตาร์ดิโอ” ด้วย มุ่งเน้นรับจ้างผลิตป้อนให้ดิจิตอลทีวีที่เกิดขึ้น มากกว่าการผลิตในรูปแบบของไทม์แชริ่ง เพื่อสร้างความมั่นคงในระยะแรก คาดว่าจะมีรายได้ในปีแรกประมาณ 30 ล้านบาทจากที่เลิกผลิตละครไปกว่า 6 ปีที่ผ่านมา

ธุรกิจสร้างภาพยนตร์นั้นยังผลิตที่ปีละ 3-4 เรื่อง ทั้งแนวหนังผี, หนังรัก และตลก เน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก ต่อเรื่องลงทุนไม่เกิน 40-50 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับโปรดักชัน เช่น 3D จะสูงกว่าปกติอีก 30% นอกจากนี้ยังเน้นจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศร่วมผลิตภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น เช่น สิงคโปร์ ถือเป็นโมเดลที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากต่างประเทศ รวมถึงช่องทางนิวมีเดียที่จะมีการส่งคอนเทนต์ขายในต่างประเทศผ่านทาง iTunes และ Google Play Store มากขึ้น เช่น สิงคโปร์ ยูเค ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย โดยปีนี้จะมีเพิ่มเป็น 20 เรื่อง น่าจะทำรายได้กว่า 30 ล้านบาทจากปีก่อนมี 11 เรื่อง

นางสาวอภิรดีกล่าวต่อว่า ทิศทางธุรกิจของไฟว์สตาร์หลังจากนี้จะเน้น 2 ส่วนหลัก คือ 1. คอนเทนต์โพรวายเดอร์ และ 2. ต่อยอดรายได้ให้ครอบคลุมทุกสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้เพียง 200 ล้านบาทจากภาพยนตร์ที่เข้าฉายเพียง 3 เรื่อง