“ซูเปอร์จิ๋ว” ลุยสื่อสิ่งพิมพ์เด็ก ดิจิตอลทีวีรุมจีบผลิตคอนเทนต์

“ซูเปอร์จิ๋ว” เนื้อหอม ดิจิตอลทีวีรุมจีบร่วมผลิตกว่า 30 รายการ ตอบรับได้เพียง 8-10 รายการเท่านั้น คาดใช้งบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ส่งทั้งปีผลิตรายการรวมกว่า 17 รายการ ชี้รายการเด็กอนาคตสดใส สปอนเซอร์ตบเท้าซื้อโฆษณาดีขึ้น แนวโน้มร่วมผลิตมีสูง การเมือง-เศรษฐกิจไม่ส่งผล ล่าสุดแตกไลน์เพิ่มสื่อสิ่งพิมพ์ ส่งรายได้รวมสิ้นปีทะลุ 380 ล้านบาท จากปีก่อนปิดรายได้ที่ 170 ล้านบาท

นายวิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ กรรมการบริหาร บริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จำกัด และบริษัท ซูเปอร์จิ๋ว อีเวนต์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการเกิดดิจิตอลทีวีกว่า 24 ช่อง และเป็นช่องเด็ก 3 ช่อง ซูเปอร์จิ๋วซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตรายการเด็กจึงเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ได้รับการทาบทามให้ร่วมผลิตรายการเด็กป้อนให้ดิจิตอลทีวีประมาณ 4-5 ช่อง ทั้งช่องเด็กและช่องวาไรตี รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 รายการ แต่ทางบริษัทสามารถตอบรับได้เพียง 8-10 รายการเท่านั้น ในรูปแบบรับจ้างผลิตและไทม์แชริ่ง คาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนด้านโปรดักชันทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

“ดิจิตอลทีวีที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นโอกาสของซูเปอร์จิ๋วที่จะสานฝันผลิตรายการสำหรับเด็กที่ยังไม่เคยทำมาก่อน โดยรูปแบบรายการนั้นจะเป็นลักษณะจับมือกับพันธมิตรเจ้าของสินค้าและเอเยนซีมาผลิตรายการร่วมกันเป็นหลัก ทำให้ต้นทุนการผลิตไม่สูงมากเพราะมีสตูดิโอของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เป็นลักษณะเช่าผลิต ขณะที่ในแง่บุคลากรนั้นเดิมมีอยู่กว่า 60 คน จะเพิ่มเข้ามาอีก 15% ก็น่าจะเพียงพอสำหรับดิจิตอลทีวีในครั้งนี้”

จากปัจจุบันซูเปอร์จิ๋วมีรายการที่ผลิตป้อนให้ฟรีทีวีทั้งช่อง 9 และไทยพีบีเอสรวม 7 รายการ เช่น ซูเปอร์จิ๋ว, ท้าให้อ่าน, ท้ายกห้อง, สิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก, เรื่องบันดาลใจ, NCDs เพราะรัก จึงยอมเปลี่ยนแปลง และ The Firms องค์กรซ่อนอ้วน การเพิ่มผลิตรายการใหม่อีก 8-10 รายการให้แก่ดิจิตอลทีวีในครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทจะมีรายการผลิตรวมเป็น 17-18 รายการ ถือเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว ทั้งนี้ หากดิจิตอลทีวีแข็งแกร่งมากขึ้น ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า บริษัทเตรียมซื้อฟอร์แมตคอนเทนต์รายการเด็กมาลงในดิจิตอลทีวีเพิ่มด้วย

อย่างไรก็ตาม ในแง่โฆษณานั้น พบว่ากลุ่มรายการสำหรับเด็กเอเยนซียังให้การตอบรับอย่างสม่ำเสมอและดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสปอนเซอร์กลุ่มใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ต้องการตอบแทนสังคม อย่างกลุ่มพลังงาน และรถยนต์ เป็นต้น แม้ว่าจะมีปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจก็ตาม เนื่องจากมองว่าไม่ว่าจะมีวิกฤตอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ตาม พ่อแม่ยังคงพร้อมจ่ายให้ลูกเช่นเดิมหรืออาจจจะมากขึ้น

สำหรับซูเปอร์จิ๋วพบว่า ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมายอดโฆษณาพ้นภาวะการขาดทุนได้ดี โดยปัจจุบันเรตโฆษณาอยู่ที่ 80,000 บาทต่อนาที และไม่ได้มีการปรับขึ้นมาตลอดสิบปี และจากการเกิดขึ้นของดิจิตอลทีวี เชื่อว่าเรตโฆษณารายการเด็กจะต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ว่า นาทีโฆษณาส่วนใหญ่ในดิจิตอลทีวีเฉลี่ยจะต่ำกว่าฟรีทีวีราว 50%

นายวิวัฒน์กล่าวต่อว่า ปีนี้ทางบริษัทยังได้เพิ่มธุรกิจใหม่ในกลุ่มสิ่งพิมพ์ด้วย คือ ซูเปอร์จิ๋ว Magazine ลักษณะฟรีก๊อบปี้สำหรับเด็กและครอบครัว คาดว่าในปีแรกจะทำรายได้กว่า 20ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทจะแบ่งรายได้ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ สิ่งพิมพ์ 20 ล้านบาท อีเวนต์ 180 ล้านบาท และรายการโทรทัศน์ 180 ล้านบาท ซึ่งอีเวนต์ไม่เติบโต แต่รายการโทรทัศน์เติบโตขึ้น 100% จากการรับผลิตเพิ่มลงในดิจิตอลทีวี รวมแล้วสิ้นปีนี้น่าจะมีรายได้กว่า 370-380 ล้านบาท จากปีก่อนที่ปิดรายได้ไป 170 ล้านบาท