แกรมมี่เผยรายได้ปี 56 ปิดที่ 11,004 ล้านบาท ขาดทุน 1,283 ล้านบาท เหตุมุ่งลงทุนดิจิตอลทีวี ขณะที่ธุรกิจเดิมโตต่อเนื่อง ปี 57 หวังจีเอ็มเอ็มแซทกู้ผลกำไรกลับมาตามแผนที่วางไว้
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 11,004 ล้านบาท โดยมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจเดิม ประกอบด้วย ธุรกิจเพลง ธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ ธุรกิจสื่อ ธุรกิจภาพยนตร์ ธุรกิจสื่อกิจกรรมทางการตลาด และธุรกิจแอนิเมชัน เป็นเงิน 8,185 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 77 โดยมีธุรกิจสื่อเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้บริษัทมากที่สุด และธุรกิจภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่เติบโตมากที่สุด ขณะที่สัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย ธุรกิจโฮมชอปปิ้ง ธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และธุรกิจทีวีดิจิตอล (ในปี 2556 ยังไม่เริ่มดำเนินงาน) เป็นเงิน 2,122 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20
โดยที่กลุ่มธุรกิจเดิมยังสามารถสร้างกำไรให้บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากบริษัทยังอยู่ในช่วงต้นของการลงทุนสำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ ส่งผลให้ปี 2556 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 1,283 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ อย่างไรก็ดี จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถกลับมาทำกำไรได้ก่อนแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่ดีมาก และธุรกิจใหม่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโฮมชอปปิ้ง ที่โตกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 600 ธุรกิจแพลตฟอร์มโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม GMM Z สามารถขยายฐานผู้ชมได้อย่างกว้างขวางด้วยยอดขาย 2.4 ล้านกล่อง แสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีของตลาดอย่างชัดเจน อีกทั้งยอดสมาชิกของโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) ก็เพิ่มขึ้นถึง 1 แสนรายภายในระยะเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น และรายได้จากค่าโฆษณาในช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเองก็โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2557 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ได้ก้าวเข้าสู่ทีวีดิจิตอลอย่างเต็มตัว หลังจากที่บริษัทชนะการประมูลทีวีดิจิตอลจำนวน 2 ช่อง คือ ช่องรายการประเภททั่วไป ความคมชัดสูง (HD) ที่ช่องหมายเลข 31 และช่องรายการประเภททั่วไป ความคมชัดปกติ (SD) ที่ช่องหมายเลข 25 ซึ่งในขณะนี้บริษัทฯกำลังเปิดรับมืออาชีพมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่กับทีวีดิจิตอลด้วยกัน ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำของประเทศ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงดูดผู้ชม และสร้างรายได้จากค่าโฆษณาได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเชื่อว่าช่องรายการทีวีดิจิตอลของเราจะเป็นช่องคุณภาพติดที่อันดับ 1 ใน 5 ช่องฮิตในใจผู้ชมอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ และสรรหาคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกมานำเสนอ อาทิ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ มาให้สมาชิก GMM Z Pay TV ได้รับชมกันอย่างจุใจในราคาที่สามารถจ่ายได้ รวมถึงการคัดสรรรายการยอดนิยมจากแกรมมี่ อาทิ ฮอร์โมน.. วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2 เนื้อคู่ The Final Answer และ ATM 2 คู่เว่อ เออเร่อ เออรัก ทั้งหมดล้วนเป็นซีรีส์ยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วประเทศมาแล้วในภาคแรก ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าคอนเทนต์คุณภาพทั้งหมดจะช่วยผลักดันให้ยอดสมาชิกเติบโตขึ้นเป็น 4 แสนรายได้ในสิ้นปี 2557
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 11,004 ล้านบาท โดยมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจเดิม ประกอบด้วย ธุรกิจเพลง ธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ ธุรกิจสื่อ ธุรกิจภาพยนตร์ ธุรกิจสื่อกิจกรรมทางการตลาด และธุรกิจแอนิเมชัน เป็นเงิน 8,185 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 77 โดยมีธุรกิจสื่อเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้บริษัทมากที่สุด และธุรกิจภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่เติบโตมากที่สุด ขณะที่สัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย ธุรกิจโฮมชอปปิ้ง ธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และธุรกิจทีวีดิจิตอล (ในปี 2556 ยังไม่เริ่มดำเนินงาน) เป็นเงิน 2,122 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20
โดยที่กลุ่มธุรกิจเดิมยังสามารถสร้างกำไรให้บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากบริษัทยังอยู่ในช่วงต้นของการลงทุนสำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ ส่งผลให้ปี 2556 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 1,283 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ อย่างไรก็ดี จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถกลับมาทำกำไรได้ก่อนแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่ดีมาก และธุรกิจใหม่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโฮมชอปปิ้ง ที่โตกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 600 ธุรกิจแพลตฟอร์มโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม GMM Z สามารถขยายฐานผู้ชมได้อย่างกว้างขวางด้วยยอดขาย 2.4 ล้านกล่อง แสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีของตลาดอย่างชัดเจน อีกทั้งยอดสมาชิกของโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) ก็เพิ่มขึ้นถึง 1 แสนรายภายในระยะเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น และรายได้จากค่าโฆษณาในช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเองก็โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2557 จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ได้ก้าวเข้าสู่ทีวีดิจิตอลอย่างเต็มตัว หลังจากที่บริษัทชนะการประมูลทีวีดิจิตอลจำนวน 2 ช่อง คือ ช่องรายการประเภททั่วไป ความคมชัดสูง (HD) ที่ช่องหมายเลข 31 และช่องรายการประเภททั่วไป ความคมชัดปกติ (SD) ที่ช่องหมายเลข 25 ซึ่งในขณะนี้บริษัทฯกำลังเปิดรับมืออาชีพมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่กับทีวีดิจิตอลด้วยกัน ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำของประเทศ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงดูดผู้ชม และสร้างรายได้จากค่าโฆษณาได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเชื่อว่าช่องรายการทีวีดิจิตอลของเราจะเป็นช่องคุณภาพติดที่อันดับ 1 ใน 5 ช่องฮิตในใจผู้ชมอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ และสรรหาคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกมานำเสนอ อาทิ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ มาให้สมาชิก GMM Z Pay TV ได้รับชมกันอย่างจุใจในราคาที่สามารถจ่ายได้ รวมถึงการคัดสรรรายการยอดนิยมจากแกรมมี่ อาทิ ฮอร์โมน.. วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2 เนื้อคู่ The Final Answer และ ATM 2 คู่เว่อ เออเร่อ เออรัก ทั้งหมดล้วนเป็นซีรีส์ยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วประเทศมาแล้วในภาคแรก ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าคอนเทนต์คุณภาพทั้งหมดจะช่วยผลักดันให้ยอดสมาชิกเติบโตขึ้นเป็น 4 แสนรายได้ในสิ้นปี 2557
