“สนพ.” เผยการศึกษาปรับปรุงค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟใหม่เพื่อนำไปจัดทำพีดีพีปี 2014 พบพีกจะลดลงถึง 2,000 เมกะวัตต์จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการใช้ไฟที่ลดลงจากการอนุรักษ์พลังงาน ช่วยประหยัดเงินลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า 6 หมื่นล้านบาท
นายสุชาลี สุมามาลย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงการปรับปรุงค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าในระยะยาวว่า ค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟใหม่ศึกษาโดยศูนย์บริการวิชาการ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่จะปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการใช้ไฟในปัจจุบันเพื่อนำไปเป็นองค์ประกอบจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ (พีดีพี 2014) ซึ่งผลการศึกษาค่าพยากรณ์พบว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) ปลายแผนของพีดีพีใหม่หรือปี 2573 จะลดลงจากพีดีพีเดิม (พีดีพี 2001 ปรับปรุงครั้งที่ 3) ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ ลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าได้ประมาณ 60,000 ล้านบาท
“ปี 2573 พีกของเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 52,256 เมกะวัตต์ ของใหม่ 50,148 เมกะวัตต์ ส่วนปริมาณหน่วยไฟฟ้าปี 2573 คาดของใหม่จะอยู่ที่ 318,429 ล้านหน่วย ของเก่า 346,767 ล้านหน่วย หรือลดลง 14,572 ล้านหน่วย ก็จะทำให้ประหยัดการลงทุนไฟฟ้าและสะท้อนไปที่ต้นทุนค่าไฟให้ลดลงได้” นายสุชาลีกล่าว
สำหรับการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟใหม่จะต่างจากการพยากรณ์เดิมที่นอกเหนือจะปรับการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีปี 56 จริงที่ลดลงเหลือ 2.9% จากเดิมที่จะโต 4-5% แล้ว ยังนำเอาแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี รวมกับแผนประสิทธิภาพการใช้ไฟ และการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมที่เดิมจะมีเพียง 8 สาขาเพิ่มเป็น 11 สาขา เพื่อให้ค่าพยากรณ์มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งหากไม่ปรับจะทำให้ค่าพยากรณ์การใช้ไฟสูงเกินความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม ค่าพยากรณ์ที่จัดทำจะสรุปมาประมาณ 4 ค่าที่จะพิจารณาจากความเป็นไปได้ของแผนอนุรักษ์พลังงานและแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟ ได้แก่ 1. ค่าพยากรณ์ที่เป็นไปตามแผน 2. แผนอนุรักษ์ฯ ชะลอไม่เป็นไปตามแผนซึ่งจะแยกเป็นชะลอมาก และน้อย 3. แผนอนุรักษ์ฯ ชะลอออกไปและยังประหยัดพลังงานได้มาก และ 4. แผนอนุรักษ์ฯ ชะลอออกไปแต่ประหยัดพลังงานได้น้อย
“แผนการพยากรณ์ไฟฟ้าจะแล้วเสร็จประมาณ มี.ค.นี้ หลังจากนั้นจะเสนอเข้าไปยังคณะทำงานที่จัดทำแผนพีดีพี ซึ่งการนำค่าพยากรณ์ใช้ไฟคงจะเลือกค่าพยากรณ์เดียวเพื่อพิจารณา ซึ่งคาดว่าพีดีพีใหม่จะแล้วเสร็จภายใน เม.ย.นี้ และจากนั้นก็จะต้องรอเสนอรัฐบาลใหม่เห็นชอบต่อไป” นายสุชาลีกล่าว