ASTVผู้จัดการรายวัน - “ชาวเกาะ” ทุ่ม 400 กว่าล้านบาทซื้อเครื่องจักรใหม่ หวังเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หวังช่วยดันรายได้รวมปีนี้โต 10% ทะลุ 5,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
นายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ผลิตกะทิสำเร็จรูปตราชาวเกาะ เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 435 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. ซื้อเครื่องจักรใหม่ จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ากะทิสำเร็จรูปและน้ำมะพร้าวแบบยูเอชที ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานที่พุทธมณฑลสาย 4 คาดสามารถผลิตได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้
2. ลงทุนสำหรับการก่อสร้างคลังสินค้าใหม่ 2 แห่งอีก 100 ล้านบาท สำหรับโรงงานชาวเกาะและโรงงานแม่พลอยเพื่อรองรับการเก็บสต๊อกความจุสินค้า 15,000 ตันต่อปี คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตกะทิและน้ำมะพร้าวยูเอชทีได้อีก 30,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต 100,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังมีงบอีก 35 ล้านบาทสำหรับเพิ่มระบบบำบัดน้ำเสียในโรงงาน
ส่วนแผนการตลาดนั้น ปีนี้ใช้งบ 10% ของรายได้รวมเพื่อรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องแกงของแบรนด์แม่พลอย ส่วนแผนต่างประเทศเน้นขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศละตินอเมริกาและประเทศจีนมากขึ้น จากปัจจุบันส่งออกจะใช้เอเยนต์ประมาณ 200 รายจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศให้ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ประเภทน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ภายใต้แบรนด์ “ชาวเกาะ” เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพ และภาคธุรกิจที่ใช้น้ำมันประเภทนี้เพื่อต่อยอดการผลิตสินค้า โดยวางตำแหน่งสินค้าไว้ในระดับพรีเมียม ขณะที่สินค้าภายใต้แบรนด์แม่พลอยก็จะมีการขยายตลาดมากขึ้น
นายอภิศักดิ์กล่าวด้วยว่า จากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นยอมรับว่ากระทบต่อบริษัทในด้านการกระจายสินค้าเข้าในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในพื้นที่ที่มีการชุมนุมได้ค่อนข้างลำบาก ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 5,000 ล้านบาท โต 10% จากปีที่ผ่านมา มาจากแบรนด์ชาวเกาะ 84%, แม่พลอย 15% และยอดดอย 1%
นายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ผลิตกะทิสำเร็จรูปตราชาวเกาะ เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 435 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. ซื้อเครื่องจักรใหม่ จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ากะทิสำเร็จรูปและน้ำมะพร้าวแบบยูเอชที ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานที่พุทธมณฑลสาย 4 คาดสามารถผลิตได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้
2. ลงทุนสำหรับการก่อสร้างคลังสินค้าใหม่ 2 แห่งอีก 100 ล้านบาท สำหรับโรงงานชาวเกาะและโรงงานแม่พลอยเพื่อรองรับการเก็บสต๊อกความจุสินค้า 15,000 ตันต่อปี คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตกะทิและน้ำมะพร้าวยูเอชทีได้อีก 30,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต 100,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังมีงบอีก 35 ล้านบาทสำหรับเพิ่มระบบบำบัดน้ำเสียในโรงงาน
ส่วนแผนการตลาดนั้น ปีนี้ใช้งบ 10% ของรายได้รวมเพื่อรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องแกงของแบรนด์แม่พลอย ส่วนแผนต่างประเทศเน้นขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศละตินอเมริกาและประเทศจีนมากขึ้น จากปัจจุบันส่งออกจะใช้เอเยนต์ประมาณ 200 รายจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศให้ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ประเภทน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ภายใต้แบรนด์ “ชาวเกาะ” เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพ และภาคธุรกิจที่ใช้น้ำมันประเภทนี้เพื่อต่อยอดการผลิตสินค้า โดยวางตำแหน่งสินค้าไว้ในระดับพรีเมียม ขณะที่สินค้าภายใต้แบรนด์แม่พลอยก็จะมีการขยายตลาดมากขึ้น
นายอภิศักดิ์กล่าวด้วยว่า จากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นยอมรับว่ากระทบต่อบริษัทในด้านการกระจายสินค้าเข้าในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในพื้นที่ที่มีการชุมนุมได้ค่อนข้างลำบาก ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 5,000 ล้านบาท โต 10% จากปีที่ผ่านมา มาจากแบรนด์ชาวเกาะ 84%, แม่พลอย 15% และยอดดอย 1%
