นายกอาร์เอสทีเอ จี้รัฐบาลรักษาการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เผยกระทบธุรกิจภาพรวมในย่านราชประสงค์หนักกว่าเดิมอีก เงินสะพัดเหลือแค่ 150 ล้านบาทต่อวัน หายไป 50% นักท่องเที่ยวหายหมด
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรืออาร์เอสทีเอ เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ต้องการเสนอให้รัฐบาลรักษาการยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) โดยเร็ว เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากกว่าการมีการชุมนุมเสียอีก
เนื่องจากว่าตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมาหลังจากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีความตกใจและหวาดวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์และความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งมีการยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยจำนวนมากด้วย เพราะเขาคิดว่าเมื่อมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุการณ์คงรุนแรง
โดยเฉพาะในย่านราชประสงค์นี้ เห็นชัดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปมาก สังเกตจากจำนวนห้องพักของโรงแรมในย่านนี้ที่มีรวมมากกว่า 4,000 ห้อง ปรากฏว่ามีอัตราการเข้าพักเพียง 20% เท่านั้นในช่วงนี้ หรือประมาณ 800 ห้อง ทั้งๆ ที่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง เพียงแต่ว่าการเดินทางไม่สะดวกเท่านั้นเอง
ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารในย่านราชประสงค์นี้ก็มียอดขายลดลงในภาพรวมมากกว่า 40% รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีกอย่างดิสเคานต์สโตร์ยอดขายก็ลดลง 50% ซึ่งจากปัจจัยลบดังกล่าวส่งผลให้ภาพรวมยอดเงินหมุนเวียนที่สะพัดในราชประสงค์นี้จากเดิม 300 ล้านบาทต่อวัน ลดลงเหลือเพียง 150 ล้านบากต่อวันเท่านั้น แต่เป็นเพียงผลกระทบในเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยรวมได้ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 เดือนจึงจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจน
“แต่การชุมุมของ กปปส.ครั้งนี้ก็ยังดีกว่าครั้งที่เสื้อแดงชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งครั้งนั้นรุนแรงมาก ธุรกิจในย่านราชประสงค์นี้หยุดชะงักหมดเลย แต่คราวนี้ยังทำมาค้าขายได้บ้าง เพียงแต่ว่าเดินทางลำบากเท่านั้นเอง อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่มั่นใจประเทศไทยก็ยังเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเหมือนที่ผ่านมา คือ จีน ฮ่องกง และสิงค์โปร์ และตลาดต่างจังหวัดยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในระดับที่น่าพอใจ”
ล่าสุดทางสมาคมฯ ได้ร่วมมือกับทางสมาชิกเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าเข้ามาจับจ่ายในย่านนี้ โดยอาศัยเทศกาลต่างๆ ที่มีต่อเนื่อง เช่น ตรุษจีน วาเลนไทน์ ซัมเมอร์ แกรนด์เซล เป็นต้น เช่น การจัดแกรนด์เซลลดราคาสินค้าสูงสุดจาก 30% เป็น 70-80%
นายชายกล่าวต่อว่า ล่าสุดสมาคมฯ ร่วมมือกับสมาชิกจัดแคมเปญ “ราชประสงค์ ไชนีส เฟสติวัล” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการภายในย่านนี้ และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเพิ่มยอดการใช้จ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 20% หรือประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อวัน