ASTVผู้จัดการรายวัน - สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ (RSTA) ตอกย้ำจุดยืนชัดเจน กลุ่มมวลชนสามารถจัดการชุมนุมบนพื้นที่สาธารณะแบบสันติวิธี สร้างความอุ่นใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยการยกระดับความปลอดภัย เทียบม็อบครั้งนี้ปลอดภัยและดีกว่าม็อบเสื้อแดงปี 2553 เผยยอดจำหน่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มอยู่ในระดับปกติ พร้อมพลิกกระดานส่งโปรโมชันแบบอัดแน่นกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคของไทยแบบก้าวกระโดด แต่ยอมรับนักท่องเที่ยวเข้าพักลดลงเหลือ 30%
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ (RSTA)และสมาชิกสมาคมฯ กล่าวว่า จากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มผู้ชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) บริเวณย่านราชประสงค์ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 พบว่ามีความแตกต่างกันมาก
เนื่องจากครั้งที่แล้วมีผลกระทบมากกว่าหลายอย่าง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเชื่อมั่นของต่างชาติ แต่การชุมนุมครั้งนี้มีผลกระทบน้อยกว่า และการชุมนุมก็มีกิจกรรมหลากหลายเป็นเหมือนคล้ายๆ กับงานเฟสติวัล และมีความปลอดภัยมากกว่าด้วย เพราะคร้งนี้ผู้ชุมนุมเจรจากับเราโดยตรงถึงความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัย แต่ไม่คุยกับตำรวจ แต่คราวที่แล้วผู้ชุมนุมคุยกับตำรวจไม่คุยกับเรา และการชุมนุมครั้งที่แล้วมีความอันตรายมากกว่าด้วย
โดยทางสมาคมฯ ได้จัดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชุมนุมให้รัดกุม เพิ่มจุดตรวจผู้ชุมนุม เพิ่มกำลงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมแล้วมีมากกว่า 1,000 นาย และยังมีกล้องวงจรปิดมากกว่า 1,500 ตัวรายล้อมพื้นที่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ สำรวจผลกระทบของสมาชิกทั้งหมดภายในย่านฯ พบว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการภายในย่านฯ มีจำนวนลดลงเล็กน้อย จากการสำรวจจากสมาชิกศูนย์การค้าและโรงแรมภายในย่านราชประสงค์ และกลุ่มที่ใช้บริการบนสกายวอล์ก โดยยังคงได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย เข้ามาใช้บริการตามปกติ และมีกลุ่มคนไทยเข้าพักเพิ่มเติม โดยห้องพักโรงแรมในย่านนี้มีมากกว่า 4,000 ห้อง พบว่ามีอัตราการเข้าพักเหลือเพียง 30% เท่านั้นจากเดิมช่วงไฮซีซันปีใหม่ต้องเต็ม 90-100% เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหวาดกลัวว่าในย่านดังกล่าวนี้จะมีความปลอดภัยหรือไม่ และจะเดินทางมาลำบากหรือไม่
ด้านสำนักงานออฟฟิศพบว่ายังคงมีความมั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองและมาตรฐานความปลอดภัยในย่านราชประสงค์ โดยเดินทางเข้ามาทำงานตามปกติเกือบ 90% ประกอบกับสมาคมฯ ได้ประสานงานและวางแผนในการจัดเส้นทางสัญจรภายในย่านฯ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้นักธุรกิจและพนักงานออฟฟิศในย่านฯ สามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ยังพบว่าเศรษฐกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วทั้งย่านฯ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเติบโตอยู่ในระดับปกติ ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่พบว่ายอดขายเริ่มลดลง 60% ในช่วง 2 วันหลังนี้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วในย่านราชประสงค์นี้จะมีคนเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 250,000 คนต่อวัน แต่ทั้งนี้ต้องรอดูวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้อีกครั้งจึงจะสามารถพิจารณาสรุปได้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ซึ่งในแง่ธุรกิจก็ไม่อยากให้มีม็อบนานเกินไปอยู่แล้ว
ล่าสุดทางสมาคมฯ และสมาชิกได้เดินหน้าวางแผนจัดทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น โดยเน้นสร้างความน่าสนใจของย่านฯ ให้เป็นแหล่งชอปปิ้งไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยนำเสนอโปรโมชันด้านชอปปิ้งไลฟ์สไตล์และไดนิ่งไลฟ์สไตล์ พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดสำหรับกลุ่มสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์สูงสุด 80% กลุ่มไดนิ่งไลฟ์สไตล์สูงสุด 30% และกลุ่มห้องพักของโรงแรมสูงสุด 40% และให้แก่กลุ่มร้านค้ารายย่อยภายในย่านฯ นำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องในแต่ละแบรนด์และสถานที่ พร้อมสร้างรายได้เพิ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ การนำเสนอสินค้าด้านหน้าอาคารเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น พร้อมทั้งเตรียมแผนกลยุทธ์การตลาดสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการด้านต่างๆ ภายในย่านฯ คึกคักมากขึ้นภายในปี 2557