“ทเวลฟ์พลัส” หวังก้าวนั่งบัลลังภ์แมสบิวตี้คอสเมติกในอีก 2 ปี ทุ่ม 150 ล้านบาทลุยปี 57 หลังพบคอสเมติกมีโอกาสเติบโตสูง ส่งรายได้รวมทเวลฟ์พลัสโต 10% แตะ 1,300 ล้านบาท ล่าสุดพร้อมรีแบรนดิ้งโลโก้ใหม่ให้สอดคล้องกับไดเรกชันสู่ความเป็น “บิวตี้แบรนด์”
น.ส.ต้องหทัย กุวานนท์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า ทเวลฟ์พลัสเข้าสู่ตลาดเฟเชียล คอสเมติก มาตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา แต่ละปียอดขายกลุ่มสินค้าคอสเมติกเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 30% ทุกปี ซึ่งแนวโน้มของตลาดแมสคอสเมติกมีมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10-15% สูงกว่าตลาดเพอร์ซันนัลแคร์โตปีละ 6-8% เท่านั้น จึงมองเป็นโอกาสในการทำธุรกิจ
ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงานภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2558 นับตั้งแต่เปิดตัวกลุ่มคอสเมติก มั่นใจว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดแมสบิวตี้คอสเมติกได้ พร้อมด้วยยอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และเป็นยอดขายหลัก 1 ใน3 ของแบรนด์ทเวลฟ์พลัส
จากปัจจุบันมีรายได้หลักมาจากสินค้า 3 กลุ่ม คือ คอสเมติก 20% โต 30% บอดี้แคร์ 55% โตไม่ถึง 10% และโคโลญ 25% โดยสิ้นปีนี้ตั้งทเวลฟ์พลัสตั้งเป้าโต 10% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 ทเวลฟ์พลัสจะให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มคอสเมติกมากยิ่งขึ้น ด้วยงบการตลาดกว่า 150 ล้านบาท โดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กับคอลเลกชั่นใหม่ คือ ทเวลฟ์พลัส คัลเลอริสต้า ส่งผลให้มีจำนวนสินค้าในกลุ่มรวมกว่า 120 เอสเคยู ระดับราคาอยู่ระหว่าง 100-300 บาท และภายในปี 57 จะเพิ่มเป็น 150 เอสเคยู หรือภายในปี 2558 จะมีไม่ต่ำกว่า 200 เอสเคยู และสร้างรายได้ให้ทเวลฟ์พลัสในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30%
นอกจากนี้ ทเวลฟ์พลัสยังได้มีการรีแบรนดิ้งโลโก้ใหม่ด้วย เริ่มจากกลุ่มสินค้าคอสเมติกก่อน และจะทยอยในทุกกลุ่มสินค้าให้ครบภายในต้นปี 2557 ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับไดเรกชันของแบรนด์ในการก้าวสู่ความเป็นบิวตี้แบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยสถานการณ์ตลาดแมสบิวตี้คอสเมติก มองว่าในปี 57 จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าการที่มีแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดถือเป็นการะตุ้นให้ตลาดเติบโต
