ซีพีเอฟชี้ปริมาณการเลี้ยงไก่เนื้อปีหน้าไม่น้อยกว่า 26 ล้านตัว/สัปดาห์ รองรับญี่ปุ่นไฟเขียวนำเข้าไก่สดจากไทยได้ในต้นปี 57 โดยบริษัทฯ จะเพิ่มปริมาณการเลี้ยงขึ้นอีกเล็กน้อย มั่นใจทั้งปีรายได้โตเพิ่ม 10-15% จากปีนี้ เนื่องจากปริมาณขายและราคาที่เพิ่มขึ้น
นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจการค้าภายในประเทศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมไก่เนื้อในปีหน้าจะเติบโตขึ้นเนื่องจากญี่ปุ่นจะอนุญาตให้นำเข้าไก่สดจากไทยได้ในเร็วๆ นี้ หลังจากญี่ปุ่นห้ามนำเข้ามานานร่วม 10 ปีเหตุมีการระบาดของโรคไข้หวัดนก
โดยปีหน้าคาดว่าปริมาณการเลี้ยงไก่เนื้อจะเพิ่มขึ้นจาก 24-25 ล้านตัว/สัปดาห์ เป็นไม่ต่ำกว่า 26 ล้านตัว/สัปดาห์ เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นโอกาสในการส่งออกไก่สด หากญี่ปุ่นยกเลิกการห้ามนำเข้าไก่สดจากไทยแล้วเชื่อว่าเกาหลีก็จะยกเลิกตามมาด้วย ซึ่งในอดีตญี่ปุ่นเคยนำเข้าไก่สดจากไทยไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน/ปี แต่ปัจจุบันหันไปนำเข้าจากบราซิลแทนหลังจากไทยมีปัญหาไข้หวัดนก
ปัจจุบันซีพีเอฟมีการขยายการเลี้ยงไก่เนื้อมาอยู่ที่ระดับ 5 ล้านตัว/สัปดาห์ หากปีหน้าจะเพิ่มปริมาณการเลี้ยงไก่เนื้อก็คงไม่มากนัก แต่จะเพิ่มเท่าไรนั้นคงต้องรอญี่ปุ่นประกาศอนุญาตให้นำเข้าไก่สดจากไทยเสียก่อน รวมทั้งคำสั่งซื้อที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อการส่งออกไก่ปรุงสุกหรือไม่ เนื่องจากบางโรงงานอาจเน้นซื้อไก่สดเพื่อไปแปรรูปแทน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีออเดอร์ไก่สดจากผู้นำเข้าญี่ปุ่นเนื่องจากยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ
“ถ้าญี่ปุ่นยังไม่ประกาศยกเลิกห้ามนำเข้าไก่สดจากไทยเราคงยังไม่เพิ่มการเลี้ยงไก่เนื้อมากนักเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อตลาดภายในประเทศ ซึ่งปีหน้าคาดว่าปริมาณการเลี้ยงไม่ต่ำกว่า 26 ล้านตัว/สัปดาห์ แต่ใน 2 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไก่เนื้อประสบปัญหาราคาตกต่ำ ซึ่งบางสัปดาห์เคยมีปริมาณการเลี้ยงไก่เนื้อถึง 27 ล้านตัว/สัปดาห์”
ในปี 2556 บริษัทฯ คาดว่าปริมาณการส่งออกไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูปจะเพิ่มขึ้น 20%เป็น 1 แสนตัน จากปีก่อนที่ส่งออกเพียง 8 หมื่นตัน โดยแบ่งเป็นการส่งออกไก่สดแช่แข็ง 4 หมื่นตันเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน และราคาส่งออกไก่ก็สูงกว่าปีก่อน 10-15%
นายธีรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้รายได้จากธุรกิจไก่ทั้งส่งออกและจำหน่ายในประเทศเติบโตขึ้นจากปีก่อน 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากราคาเนื้อไก่ได้ขยับตัวสูงขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 4,500-5,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน และราคาไก่เป็นอยู่ที่ 45 บาท/กิโลกรัม แม้ว่าสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองจะทำให้กำลังซื้อลดลงไปบ้างก็ตาม
ดังนั้นเป้าหมายปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 10-15% ของรายได้ปีนี้ หากค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ระดับ 32 บาท/ดอลลาร์จะทำให้การส่งออกของไทยดีขึ้น
