“พาณิชย์” คาดจำนำข้าวรอบแรกปี 2556/57 ใช้เงินแค่ 1.9 แสนล้านบาท มีข้าวเข้าโครงการกว่า 10 ล้านตัน มั่นใจมีเงินจ่ายชาวนาเพียงพอ ส่วนการทุจริตโครงการจำนำข้าวช่วง 3 ปี พบ 242 คดี
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์รักษาการ เปิดเผยภายการหลังประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบและรับจำนำข้าว ครั้งที่ 1/2556 ว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาล 2556/57 (รอบแรก) คาดว่าจะใช้เงินในการรับจำนำประมาณ 1.9 แสนล้านบาท จากกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติทั้งหมด 2.7 แสนล้านบาท โดยขณะนี้มีข้าวเปลือกเข้าโครงการรับจำนำตั้งแต่เดือน ต.ค.ถึงปัจจุบันประมาณ 8 ล้านตัน คาดว่าการรับจำนำในอีก 2 เดือนที่เหลือ คือ ม.ค.-ก.พ. ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการ จะมีข้าวเข้าโครงการอีกประมาณ 2 ล้านตัน
“ยืนยันว่ารัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอในการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาเข้าโครงการรับจำนำ ซึ่งจากการหารือกับกระทรวงการคลังได้ยืนยันตรงกันว่ามีงบประมาณใน 3 ส่วน คือ เงินที่ได้จากการระบายข้าว เงินจากงบประมาณ และจากแหล่งเงินกู้ ส่วนการรับจำนำรอบสองต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาพิจารณาก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร”
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระบายข้าว คาดว่าเดือน ธ.ค.จะสามารถส่งเงินคืนกระทรวงการคลังได้เพิ่มอีกประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท โดยล่าสุดมีสต๊อกข้าวเหลือไม่ถึง 10 ล้านตัน เป็นต้นข้าว 5 ล้านตัน ที่เหลืออีก 2-3 ล้านตันเป็นปลายข้าว
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า สำหรับผลการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบและรับจำนำข้าว ได้รับรายงานเกี่ยวกับการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2554/55 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีการกระทำผิด 242 คดี เป็นความผิดเกี่ยวกับการขนข้าวข้ามเขต 103 คดี ลักลอบนำข้าวประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศ 44 คดี ฉ้อโกงเกษตรกร 45 คดี และยักยอกทรัพย์ 43 คดี ที่เหลือเป็นคดีอื่นๆ อีกกว่า 10 คดี ซึ่งคดีทั้งหมดได้ดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งแจ้งตำรวจ ฟ้องศาลแล้ว
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ และ รมว.กลาโหมรักษาการ ยังได้สั่งการให้มีการเข้มงวด เพื่อป้องกันการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเพิ่มเติม โดยได้ตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาอีกชุด หรือเป็นผู้ตรวจสอบภายนอก มีกระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบ จะมีการตรวจสอบตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ใบประทวน จนถึงการเก็บข้าวสารในโกดัง และตรวจสอบการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาล
