ยุบสภาทำ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านสะดุด “ชัชชาติ” หวังโครงการลงทุน 2 ล้านล้านทั้งปรับปรุงทาง ซื้อรถโดยสารและหัวจักรใหม่เพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถ เผยเร่งพัฒนาระบบรางยกเครื่องรถไฟเพื่อลดอุบัติเหตุ ระบุปี 56 เกิดเหตุทางรางถึง 522 ครั้ง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นโยบายยกเครื่องมาตรการความปลอดภัยในการขนส่งสาธารณะในด้านการขนส่งทางรางนั้น ในรอบปี2556 มีอุบัติเหตุรถไฟตกราง 125 ครั้ง รถไฟชนยานพาหนะ 112 ครั้ง รถไฟชนคน 79 ครั้ง อุบัติเหตุอื่นอีก 206 ครั้ง ซึ่งแนวทางในการพัฒนาโครงการรถไฟเพื่อลดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยคือต้องเร่งปรับปรุงสภาพทาง (ลดความเสี่ยงตกราง), พัฒนาระบบทางคู่, ซื้อหัวรถจักรและขบวนรถทดแทนเดิมที่ชำรุด, ติดตั้งเครื่องกั้นบริเวณทางแยกและรั้วสองข้างทาง, รับพนักงานเพิ่มเพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินงาน
โดยขณะนี้การปรับปรุงทางระยะที่ 5 คืบหน้า 98.8% ปรับปรุงทางระยะ 6 คืบหน้า 93.57% โครงการปรับปรุงทางฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 84 กม. คืบหน้า 74.69% ช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 362 กม. คืบหน้า 55.02% ช่วง หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 149 กม. คืบหน้า 57.69% ช่วงคลองไผ่-อุบลราชธานี ระยะทาง 369 กม.คืบหน้า 53.82% ช่วงมาบกะเบา-คลองไผ่ ระยะทาง 73 กม.คืบหน้า 61.33% ชุมทางบ้านภาชี-ลพบุรี ระยะทาง 42 กม.คืบหน้า 23.5% เป็นต้น
สำหรับโครงการที่อยู่ในพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. วงเงินไม่เกิน 2 ล้านล้านบาทนั้นนายชัชชาติกล่าวว่าต้องรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาก่อน ซึ่งมีหลายโครงการสำคัญใน พ.ร.บ.2 ล้านล้านบาทที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางรางโดยเฉพาะรถไฟทางคู่ เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ อยู่ระหว่าวพิจารณารายงาน EIA, เส้นทางมาบกะเบา-นครราชสีมา (ชุมทางถนนจินะ) อยู่ระหว่างปรับปรุงเพิ่มเติม EIA, เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ, เส้นทางนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน อยู่ระหว่างปรับปรุงเพิ่มเติมรายงาน EIA, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
การจัดหารถจักรดีเซล 13 คัน รถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน 50 คัน (กำลังประกวดราคา) โครงการ Refurbish รถจักร 56 คัน (อยู่ระหว่างพิจารณาความคุ้มค่าเปรียบเทียบกับการซื้อใหม่) โครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ 115 คัน (รอบอร์ด ร.ฟ.ท.พิจารณาผลคัดเลือก) โครงการติดตั้งเครื่องกั้นเสมอระดับ และปรับปรุงเครื่องกั้น 1,247 แห่ง และโครงการติดตั้งรั้วสองข้างทาง 1,649 กม.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวยอมรับว่า การที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาส่งผลกระทบต่อโครงการใน พ.ร.บ.2 ล้านล้านบาทแน่นอน โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้า ที่ต้องใช้วงเงินลงทุนสูง ส่วนโครงการพัฒนาระบบรางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะกระทบไม่มากนักเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโครงการเดิมที่มีแผนดำเนินงานอยู่แล้วต่อเนื่องมาทุกรัฐบาลแต่การดำเนินงานค่อนข้างล่าช้ารัฐบาลนี้จึงปรับแผนการเงินมาใช้ พ.ร.บ.2 ล้านล้าน แต่หากไม่สามารถใช้เงินใน พ.ร.บ.2 ล้านล้านก็ยังสามารถปรับไปใช้งบประมาณประจำปี เงินกู้อื่นๆ มาลงทุนเหมือนที่ผ่านมาได้