ธุรกิจเอกชนคึกคักรับ “ปู” ยุบสภาทันที ประกาศปรับโครงสร้างบริหารใหม่ ค่ายยักษ์ใหญ่ เซ็นทรัล ดัน “ทศ” รุ่นใหม่ ขึ้นแท่นคุมตำแหน่งประธานกรรมการบริหารด้วยวัยเพียง 49 ปี ด้านซีพีเอ็นดึงมืออาชีพโรบินสันคุม ส่วนเดอะมอลล์เร่งหาผู้บริหารเสริมทัพ ส่วนโค้กดัน “พรวุฒิ” คุม
ฉับพลันที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาในช่วงเช้าวานนี้ ปรากฏว่ากลุ่มธุรกิจมีความเคลื่อนไหวกันอย่างทันทีในทางบวก โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างบริหาร เสมือนหนึ่งว่ามีการอั้นกันมานานในช่วงที่มีความวุ่นวายทางการเมือง และรัฐบาลยังไม่ยุบสภา
โดยเฉพาะค่ายค้าปลีกใหญ่อย่างเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่ประกาศข่าวการแต่งตั้งออกมาทันที โดยที่บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยคณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 2 ตำแหน่ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่การแข่งขันระดับสากล คือ นายสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ (อายุ 73 ปี) ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (Chairman of Central Group Board of Directors) แทนนายวันชัย จิราธิวัฒน์ ที่ถึงแก่กรรมไปในปีที่ผ่านมา โดยทำหน้าที่กำกับดูแลและให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่มฯ
แต่ที่สำคัญที่น่าจับตามองคือ การแต่งตั้ง นายทศ จิราธิวัฒน์ (อายุ 49 ปี) ขึ้นเป็น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (Chairman of Executive Committee and CEO of Central Group) แทน นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ (อายุ 66 ปี) ที่ขอเกษียณอายุการทำงานไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นับเป็นการก้าวสู่การบริหารงานยุคใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัลฯ หลังจากการนำทัพของนายสุทธิธรรม ที่ทำยอดขายของกลุ่มฯ เติบโตทะลุระดับ 200,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกลุ่มเซ็นทรัล และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคยุโรปจากการซื้อกิจการห้าง ลา รีนาสเชนเต้
นายสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ กล่าวว่า “การที่ทศได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการให้มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลฯ นั้นนับว่ามีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มเซ็นทรัลฯ มาเป็นเวลายาวนานกว่า 24 ปี มีความรู้รอบลึกซึ้งเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มฯ มีสไตล์การทำงานแนวรุก”
ทั้งนี้ นายทศ จิราธิวัฒน์ ได้ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในปี 2545 มีบทบาทสำคัญนำเสนอรูปแบบใหม่ๆ ของธุรกิจค้าปลีก อาทิ การบุกเบิกร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ต่างๆ เข้าสู่ประเทศไทย เช่น สเปเชียลตี้ สโตร์ และ ซูเปอร์สโตร์ และการสร้างกลยุทธ์ด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM - Customer Relationship Management) โดยริเริ่มจัดทำบัตร The 1 Card เป็นครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแต่งตั้งนายทศครั้งนี้เป็นการเปิดทางให้แก่นายจิราธิวัฒน์ ยุคเจเนอเรชันใหม่ๆ ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทในการบริหารงานมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันค้าปลีกที่รุนแรงทั้งในไทยและในตลาดโลกที่กลุ่มเซ็นทรัลกำลังเคลื่อนทัพขยายตัวออกไป ทั้งในเอเชียและยุโรป
ส่วนทางด้านบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปก็มีประกาศโดยคณะกรรมการ CPN มีมติแต่งตั้ง ปรีชา เอกคุณากูล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ซีพีเอ็น เพื่อรับผิดชอบบริหาร และพัฒนาบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2557 เป็นต้นไป เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและเป้าหมายที่กำหนดไว้ด้วยการขยายและพัฒนาโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่สำคัญต่างๆ ของประเทศไทย เน้นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรุกตลาดใหม่ๆ จากการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 และยังเป็นการรองรับการขยายตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชีย อีกด้วย
ทั้งนี้ นายปรีชาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล เช่นปี 2538-2543 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), ปี 2543-2546 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล จำกัด และบริษัท บีทูเอส จำกัด, ปี 2546-2555 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน)
***เดอะมอลล์เร่งหามืออาชีพเสริมทัพ
ขณะเดียวกัน เดอะมอลล์ที่เป็นคู่แข่งของเซ็นทรัลก็อยู่ระหว่างการหาผู้บริหารระดับกลางถึงสูง 50 คนเพื่อเข้ามาเสริมทัพการบริหารงาน และเตรียมประกาศโครงสร้างการบริหารใหม่เร็วๆ นี้รองรับแผนการขยายธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาร่วมงานแล้วจำนวนหนึ่งเช่นกัน อย่างนายแมทธิว กิจโอธาน จากค่ายไทยเบฟ เข้ามาร่วมงานเมื่อกลางปีนี้
เดอะมอลล์กรุ๊ปอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการยักษ์ใหม่กว่า 20,000 ล้านบาท จึงต้องการบุคลากรมืออาชีพเข้ามาบริหารงานจำนวนมาก ทั้งโครงการเอ็มโพเรียมที่รีโนเวตใหญ่ และโครงการเอ็มควอเธียร์ และโครงการเอ็มสเฟียร์ ซึ่งรวมมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท และยังมีโครงการศูนย์การค้าใหม่ที่หัวหินอีก 1 โครงการ ยังไม่นับรวมเดอะมอลล์สาขาใหม่ที่จะเกิดขึ้นอีกที่สี่แยกบางนาด้วย
*** ไทยน้ำทิพย์ดัน “พรวุฒิ”
ด้านบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายใหญ่ของกลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลา ในประเทศไทย แถลงว่า คณะกรรมการของบริษัทได้ลงมติแต่งตั้ง นายพรวุฒิ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด จากตำแหน่งรองประธานกรรมการในปัจจุบัน และเลื่อนตำแหน่ง นายพงส์ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด จากเดิมที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ อีกด้วย
นายมานูเอล อาร์โรโย ประธานหน่วยธุรกิจภูมิภาคอาเซียนของเดอะ โคคา-โคลา คอมปะนี ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้บริหารทั้งสองตำแหน่งในครั้งนี้เป็นการตอบแทนผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของไทยน้ำทิพย์ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจโตขึ้นถึงสองเท่านับตั้งแต่ปี 2540 กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาเป็นผู้นำด้านตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้นำด้านตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 56.7% นับถึงเดือนมิถุนายน 2556
การแต่งตั้งนายพรวุฒิ เป็นกำลังสำคัญและผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศลาว
นายพรวุฒิกล่าวว่า ช่วงต้นปีนี้กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทยได้ลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาทขยายขีดความสามารถในด้านการผลิต ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก โดยที่แบรนด์สินค้าของโคคา-โคลามีการเติบโตในอัตรา 27% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 จากตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมของไทยมีมูลค่าประมาณ 44,000 ล้านบาทในปี 2555 ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์มีมูลค่าประมาณ 169,000 ล้านบาทในปี 2555