รฟม.ฟุ้งฉวยจังหวะดีสวอปหนี้เงินเยน 1.3 หมื่นล้าน ดันผลประกอบการปี 56 ไม่ขาดทุนเป็นปีแรก และคาดถ้าสวอปหนี้ที่เหลืออีก 6 หมื่นล้านจะมีกำไร 1.5 หมื่นล้าน “รัชนี” เผยต้องให้ความสำคัญทั้งก่อสร้างและบริหารการเงินเหตุ รฟม.มีหนี้มาก คาดปี 57 เห็นกำไรอีก
นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ รฟม.ในปี 2556 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากมีกำไรจากสามารถสวอปหนี้เงินกู้สกุลเยนจำนวน 13,000 ล้านบาท ประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากที่บอร์ดได้ตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและมีการทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิดจนสามารถหาจังหวะอัตราแลกเปลี่ยนเหมาะสมทำการสวอปหนี้ไปจำนวนหนึ่งและมีกำไรกลับมา โดยปัจจุบัน รฟม.ยังมีภาระหนี้เงินกู้อยู่กว่า 9.1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ต่างประเทศ (สกุลเยน) ประมาณ 6 หมื่นล้านบาทและหนี้เงินกู้ในประเทศ 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากทำการสวอปในขณะที่ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจะมีกำไรถึง 1.5 หมื่นล้านบาท แต่การสวอปต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เพื่อไม่ให้ห้กระทบต่อตลาดการเงิน
“ก่อนหน้านี้ รฟม.จะเน้นเรื่องการก่อสร้างเป็นหลักอย่างเดียว แต่ปีที่ผ่านมาเห็นว่าหากมีการบริหารจัดการภาระหนี้กว่าแสนล้านบาทให้ดีก็จะช่วยให้ผลประกอบการรวมดีขึ้นเพราะช่วยลดภาระดอกเบี้ย และการสวอปหนี้ในช่วงเวลาที่ค่าเงินเหมาะสมจะทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย ซึ่งได้ทำให้เห็นแล้วปีหน้าก็จะต้องประเมินค่าเงินและวางแผนสวอปที่เหมาะสมต่อไป” นางสาวรัชนีกล่าว
นายธนสาร สุรวุฒิกุล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) รฟม. กล่าวว่า ปี 2556 รฟม.มีรายได้จากการดำเนินงาน (ค่าสัมปทานและเชิงพาณิชย์) 212 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน 646 ล้านบาท ได้รับอุดหนุนจากรัฐ 430 ล้านบาท มีรายได้อื่น 36 ล้านบาท เบื้องต้นไม่ขาดทุนจากการดำเนินงาน โดยมีภาระดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 800 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคา 1,900 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการสวอปหนี้เงินเยน 2,800 ล้านบาท ซึ่งเข้ามาช่วยค่าดอกเบี้ยและค่าเสื่อม เท่ากับไม่ขาดทุน และทางบัญชีพบว่าหากสวอปหนี้เงินกู้ต่างประเทศที่เหลือ 6 หมื่นล้านบาทตอนนี้จะมีกำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2555 ที่ขาดทุนสุทธิ 670 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2556 จึงเป็นปีแรกที่ รฟม.มีกำไร ซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้นหลักๆ เป็นผลมาจากการวางแผนทางการเงินเพื่อบริหารภาระหนี้เงินกู้ต่างประเทศที่มีมาก ประกอบกับจังหวะอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมสามารถฉวยโอกาสสวอปหนี้บางส่วนแล้วมีกำไร ซึ่งแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินเยนที่ยังมีทิศทางอ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำสวอปแต่ต้องประเมินช่วงเวลาและจำนวนที่จะทำที่เหมาะสมต่อไป โดยมั่นใจว่าปี 2557 รฟม.ยังมีโอกาสที่ดี และยังมีแผนที่จะเพิ่มรายได้จากการดำเนินงาน และจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานทางบัญชี ซึ่งล้วนจะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นทั้งสิ้น