ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนผ่าน “บีโอไอ” 10 เดือนแรกของปีนี้มีนักลงทุนยื่นขอทั้งสิ้น 1,561 โครงการ มูลค่าลงทุน 775,000 ล้านบาท จับตาแนวโน้มทั้งปีมีโอกาสะพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ล้านล้านบาท เหตุเศรษฐกิจทั้งภายในและโลกชะลอตัว
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แจ้งว่า ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านบีโอไอ 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 56) มีนักลงทุนยื่นขอลงทุนทั้งสิ้น 1,561 โครงการคิดเป็นมูลค่าการลงทุน 775,000 ล้านบาท ซึ่งพบว่าทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุนลดลงเมื่อเปรีบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ต.ค. 55) ที่มีการยื่นขอทั้งสิ้น 1,700 โครงการ มูลค่า 786,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ
“เป้าหมายที่กระทรวงอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าปีนี้การยื่นขอส่งเสริมฯ น่าจะถึงระดับ 1 ล้านล้านบาทนั้น หากพิจารณาคำชอในขณะนี้ที่เหลืออีก 2 เดือนจะต้องได้อย่างต่ำเดือนละ 1 แสนล้านบาท ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่ก็ถือว่าภาพรวมการลงทุนไทยก็ยังเติบโตได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งในและนอกประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับการยื่นขอลงทุน 10 เดือนแรกปีนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์การลงทุนสูงสุดที่ 519 โครงการ ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 110 โครงการ อันดับ 2 เป็นการลงทุนจากกลุ่มยุโรป 140 โครงการลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 36 โครงการ อันดับ 3 เป็นการลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ 82 โครงการลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 48 โครงการ อันดับ 4 เป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 70 โครงการ ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16 โครงการ เป็นต้น
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยื่นการลงทุนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค 423 โครงการ มูลค่า 332,900 ล้านบาท รองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง 365 โครงการมูลค่า 210,050 ล้านบาท อันดับ 3 กลุ่มเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตรจำนวน 286 โครงการมูลค่า 96,000 ล้านบาท อันดับ 4 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 242 โครงการมูลค่าลงทุน 46,300 ล้านบาท อันดับ 5 อุตสาหกรรมเคมีกระดาษและพลาสติก 117 โครงการมูลค่า 83,900 ล้านบาท อันดับ 6 กลุ่มอุตสาหกรรมเบา 63 โครงการมูลค่า 13,600 ล้านบาท และอันดับสุดท้ายอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เซรามิก และโลหะขั้นมูลฐาน 35 โครงการมูลค่า 20,600 ล้านบาท