ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ UN ลงมติคัดเลือก จีน รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย เวียดนาม คิวบา และ แอลจีเรีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งจาก 47 ที่นั่งของคณะกรรมาธิการสภาสิทธิมนุษยชนแห่ง UN ท่ามกลางเสียงติติงจากนักสิทธิมนุษยชน และ UN ยังได้สมาชิกใหม่อีก 14 ชาติ ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส มัลดีฟส์ มาซิโดเนีย แม็กซิโก โมร็อคโค นามิเบีย และแอฟริกาใต้
ธ.กลางยุโรป (ECB) ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยของยูโรโซนในขณะนี้ที่ 0.25% ยังไม่ใช่ระดับต่ำสุด เพื่อช่วยยุติภาวะเศรษฐกิจชะงักงันของยูโรโซน ทั้งนี้ ECB อาจพิจารณาใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม เช่น การเรียกเก็บภาษีจากเงินฝากจาก ธ.พาณิชย์ที่มีสภาพคล่องส่วนเกิน
สนง.สถิติสหภาพยุโรป รายงาน ผลผลิตภาคโรงงานในเขตยูโรโซนเดือน ก.ย. ลดลง 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า -0.3% เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเปราะบางของการฟื้นตัวของยูโรโซน
สนง.สถิติแห่งชาติของอังกฤษ รายงานว่า อัตราว่างงานเดือน ต.ค. ลดลงมาอยู่ที่7.6% จาก 7.7% ในไตรมาสก่อน ใกล้เคียงกับระดับเพดานที่ ธ.กลางอังกฤษกำหนดไว้ในไตรมาส 3
ประธาน FED สาขาแอตแลนตา และมินนิอาโปลิส ระบุว่า FED ควรดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไป ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการเติบโตอย่างอ่อนแอประกอบกับการจ้างงานมีแนวโน้มไม่แน่นอนจากผลของการปิดหน่วยงานรัฐบาลในช่วงเดือน ต.ค.
คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประกาศเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงลึก และปล่อยให้การจัดสรรทรัพยากรเศรษฐกิจเป็นไปตามกลไกตลาด
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชนของญี่ปุ่นในเดือน ก.ย. ชะลอตัวลง2.1% จากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ คาดว่ายอดสั่งซื้อจะลดลงอีกในไตรมาสนี้ แสดงว่าการลงทุนภาคเอกชนยังคงเป็นจุดอ่อนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป
ธ.กลางญี่ปุ่น รายงานว่า ราคาค้าส่งของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือนพบว่าลดลง 0.1% จากเดือน ก.ย.
สนง.สถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย รายงานว่า ค่าจ้างแรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้น0.5% ในไตรมาส 3 แต่ดัชนีราคาค่าจ้างเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2543 แสดงว่าตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะซบเซา
อัตราว่างงานเกาหลีใต้เดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เป็น 2.8% เนื่องจากตัวเลขว่างงานของกลุ่มวัยรุ่นขยายตัวรวดเร็ว โดยอัตราว่างงานในกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 15-29 ปี เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ไปสู่ระดับ 7.8%
ผู้ว่าธปท. ระบุว่า การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังคงเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้ ที่การเติบโตไม่ได้อยู่ในระดับสูงและแรงกดดันเงินเฟ้อยังมีไม่มาก ทั้งนี้ ยังไม่เห็นเงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น และตลาดอัตราแลกเปลี่ยน อย่างมีนัยสำคัญ โดยยังไม่เห็นเหตุอะไรที่น่าวิตก หรือจำเป็นต้องเข้าไปดูแลอะไรเป็นพิเศษ
IMF ระบุว่า ความไม่แน่นอนและการขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางด้านฐานะการคลังของไทยที่ลดลง จากการรับประกันราคาข้าวที่สูงกว่าราคาตลาดถึง 40% เป็นสิ่งทำให้รัฐบาลขาดทุนต่อเนื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่ยังเดินหน้าต่อ
กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาด้วยวิธีการของรัฐบาลเอง โดยจะรับฟังความเห็นต่าง หากแต่ IMFจำเป็นต้องเข้าใจสถานการณ์ภายในได้อย่างลึกซึ้ง ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นในเชิงทฤษฎี
นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงคำแนะนำของ IMF ว่า ผลขาดทุนประจำปีของโครงการรับจำนำข้าวหลังจากขายข้าวในสต๊อกแล้วนั้นจะไม่เกิน 2 แสนล้านบาท
รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีคำแนะนำของ IMF ว่า ไม่ควรมองส่วนที่ทำให้เกิดภาระทางการคลังจากโครงการรับจำนำข้าวแต่เพียงส่วนเดียว
สแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าต่างประเทศ เห็นด้วยกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่มีความเป็นห่วงแนวทางอารยะขัดขืนของแกนนำม็อบที่มีการชักจูงให้ประชาชนนัดหยุดงาน เพราะจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของภาคเอกชนจึงขอให้ทุกคนมาทำงานตามปกติ แต่หลังเลิกงานสามารถไปร่วมชุมนุมได้อย่างอิสระ เนื่องจากถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติยังมั่นใจในการลงทุนในไทย เพราะเชื่อว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายที่คัดค้านจะตกลงกันได้ และไทยยังน่าลงทุนทั้งในระยะกลางและระยะยาว
SET Index ปิดที่ 1,404.77 จุด ลดลง 8.31 จุด (-0.59%) ด้วยมูลค่าซื้อขายเพียง 28,779.45 ล้านบาท ปรับตัวลงตามภูมิภาค เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ และความกังวลต่อการลดวงเงิน QE ในการประชุม FOMC ปลายสัปดาห์นี้ รวมถึงปัจจัยการเมืองภายในประเทศ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า หุ้นไทยผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศมากกว่าการเมืองในประเทศ เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ 1-12 พ.ย.ที่ผ่านมาลดลง 2% แต่เมื่อเทียบกับอินโดนีเซีย อินเดีย และไต้หวัน พบว่าไทยยังดีกว่า นอกจากนี้ ผลกระทบจากการลด QE น่าจะยังมีความเสี่ยงมากกว่าปัจจัยในประเทศ ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้ว 1 แสนล้านบาท โดยผู้ลงทุนกลุ่มอื่นๆ เป็นผู้ซื้อสุทธิ ส่วนปีหน้านั้นมองว่าไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่ค่อนข้างดีกว่าภูมิภาค และเมื่อเรื่อง QE จบ เงินทุนก็น่าจะไหลกลับเข้ามา
นักวิเคราะห์ ASP มีแนวโน้มปรับลด EPS Growth ตลาดลงราว 5% ในปีนี้ และลดลงอีก 4% ในปีหน้า ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มภาคการผลิต (Real sector) รายงานงบงวดไตรมาส 3 เพียง 30% ของทั้งหมดก็ตาม เพราะพบว่าผลกำไรส่วนใหญ่น้อยกว่าคาด และได้ทยอยปรับลดไปบ้างแล้ว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.01% ถึง 0.02%มีมูลค่าการซื้อขายรวม 57,018.63 ล้านบาท
