เจ้าหน้าที่ของมูดี้ส์ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศกล่าวเมื่อวานนี้ว่า มูดี้ส์มองว่าเศรษฐกิจโปรตุเกสไม่ได้เผชิญปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกต่อไป หลังจากมูดี้ส์ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสสู่ "มีเสถียรภาพ" จาก "เชิงลบ" ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกสดิ่งลงอย่างรุนแรง
มูดี้ส์ถือเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สำคัญแห่งแรกที่ส่งสัญญาณ ในทางบวกต่อโปรตุเกส หลังจากโปรตุเกสเผชิญวิกฤติการเมืองในฤดูร้อน โดยการปรับขึ้นแนวโน้มในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความพยายามของรัฐบาล โปรตุเกสในการออกจากโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในปีหน้า
มูดี้ส์ปรับขึ้นแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสในวันศุกร์ โดยให้เหตุผลว่าโปรตุเกสประสบความก้าวหน้าในการปรับสมดุลทางการคลัง,แนวโน้มเศรษฐกิจโปรตุเกสปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีความเป็นไปได้น้อยลงที่โปรตุเกสจะปรับโครงสร้างหนี้
นางแคธริน มึห์ลบรอนเนอร์ รองประธานมูดี้ส์กล่าวต่อรอยเตอร์ว่า "ความเสี่ยงยังคงมีอยู่เสมอ แต่เราต้องการส่งสัญญาณผ่านทางแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพของโปรตุเกสว่า เราไม่ได้คาดการณ์ อีกต่อไปว่าความเสี่ยงจะพุ่งขึ้นมากนักในอนาคต"
"เราไม่คาดว่าสถานการณ์หลักที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือการที่เศรษฐกิจโปรตุเกสถดถอยลงอย่างรุนแรงมาก"
มูดี้ส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสไว้ที่ Ba3 ซึ่งถือเป็นอันดับความน่าเชื่อถือขั้นขยะ และอยู่ห่างจากอันดับเกรดน่าลงทุน 3 ขั้น โดยอันดับ Ba3 นี้ถือว่าต่ำสุดในบรรดาอันดับที่จัดโดยสถาบันจัดอันดับชั้นนำทั้ง 3 แห่ง สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) จัดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสไว้ที่ BB ส่วนฟิทช์จัดอันดับของโปรตุเกสไว้ที่ BB+
มูดี้ส์ปรับขึ้นแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกส ในขณะที่มีหลักฐานมากยิ่งขึ้นที่บ่งชี้ว่า วิกฤติหนี้โปรตุเกสอาจปรับตัวดีขึ้น โดยวิกฤติหนี้โปรตุเกสเคยส่งผลให้โปรตุเกสต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในปี 2011 และส่งผลให้โปรตุเกสเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา โปรตุเกสมีเศรษฐกิจเติบโตขึ้น 1.10% ต่อไตรมาสในไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง และอัตราการว่างงานในโปรตุเกสก็ร่วงลงมาแล้วสองไตรมาสติดต่อกัน
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
มูดี้ส์ถือเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สำคัญแห่งแรกที่ส่งสัญญาณ ในทางบวกต่อโปรตุเกส หลังจากโปรตุเกสเผชิญวิกฤติการเมืองในฤดูร้อน โดยการปรับขึ้นแนวโน้มในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความพยายามของรัฐบาล โปรตุเกสในการออกจากโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในปีหน้า
มูดี้ส์ปรับขึ้นแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสในวันศุกร์ โดยให้เหตุผลว่าโปรตุเกสประสบความก้าวหน้าในการปรับสมดุลทางการคลัง,แนวโน้มเศรษฐกิจโปรตุเกสปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีความเป็นไปได้น้อยลงที่โปรตุเกสจะปรับโครงสร้างหนี้
นางแคธริน มึห์ลบรอนเนอร์ รองประธานมูดี้ส์กล่าวต่อรอยเตอร์ว่า "ความเสี่ยงยังคงมีอยู่เสมอ แต่เราต้องการส่งสัญญาณผ่านทางแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพของโปรตุเกสว่า เราไม่ได้คาดการณ์ อีกต่อไปว่าความเสี่ยงจะพุ่งขึ้นมากนักในอนาคต"
"เราไม่คาดว่าสถานการณ์หลักที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือการที่เศรษฐกิจโปรตุเกสถดถอยลงอย่างรุนแรงมาก"
มูดี้ส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสไว้ที่ Ba3 ซึ่งถือเป็นอันดับความน่าเชื่อถือขั้นขยะ และอยู่ห่างจากอันดับเกรดน่าลงทุน 3 ขั้น โดยอันดับ Ba3 นี้ถือว่าต่ำสุดในบรรดาอันดับที่จัดโดยสถาบันจัดอันดับชั้นนำทั้ง 3 แห่ง สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) จัดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสไว้ที่ BB ส่วนฟิทช์จัดอันดับของโปรตุเกสไว้ที่ BB+
มูดี้ส์ปรับขึ้นแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกส ในขณะที่มีหลักฐานมากยิ่งขึ้นที่บ่งชี้ว่า วิกฤติหนี้โปรตุเกสอาจปรับตัวดีขึ้น โดยวิกฤติหนี้โปรตุเกสเคยส่งผลให้โปรตุเกสต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในปี 2011 และส่งผลให้โปรตุเกสเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา โปรตุเกสมีเศรษฐกิจเติบโตขึ้น 1.10% ต่อไตรมาสในไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง และอัตราการว่างงานในโปรตุเกสก็ร่วงลงมาแล้วสองไตรมาสติดต่อกัน
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group