“พาณิชย์” ตามบี้สินค้าลดขนาด แต่ขายราคาเดิม พร้อมศึกษาดึงสินค้าไอทีเข้าบัญชีคุม หลังคนใช้เยอะ

“สมชาติ” รุกต่อแก้เกมพ่อค้าหัวหมอ สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจตลาด จับตาสบู่ แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาล้างห้องน้ำ นม มีการลดไซส์ ลดปริมาณ แล้วขายราคาเดิมหรือไม่ หลังเจอกับตัวจังๆ เตรียมขอความร่วมมือให้สินค้าชนิดเดียวกันควรมีขนาดเดียว แต่หากไม่ได้ ใครยื่นขอปรับราคาจะตรวจสอบเป็นพิเศษ พร้อมศึกษาดึงสินค้าไอทีเข้าบัญชีควบคุม

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดูแลสินค้าที่อยู่ในบัญชีติดตามดูแลของกรมฯ จำนวน 205 รายการว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ออกไปตรวจสอบภาวะราคาสินค้าในท้องตลาดที่ดำเนินการอยู่เป็นประจำ ให้มีการตรวจสอบขนาดบรรจุของสินค้าต่างๆ ด้วยว่ามีการลดปริมาณลงหรือไม่ หรือมีการลดขนาดบรรจุภัณฑ์ลงหรือไม่ เพราะถือเป็นการปรับราคาทางอ้อม และเป็นการเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภคที่หากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่ทราบว่าสินค้าได้ขึ้นราคาไปแล้ว

“ผมเจอกับตาตัวเองตอนไปหาซื้อสินค้า พบว่าของบางอย่างเมื่อก่อนขนาดบรรจุเท่านี้ มาวันนี้ลดปริมาณบรรจุลง แล้วยังขายราคาเดิม หรือบางรายการลดขนาดลงมาแล้วขายราคาเดิม ถ้าผู้บริโภคไม่สังเกตก็จะไม่รู้สึกว่าสินค้าขึ้นราคาเพราะยังขายในราคาเดิมอยู่ แต่จริงๆ แล้วเป็นการขึ้นราคาทางอ้อม เพราะผู้บริโภคแม้จะจ่ายราคาเดิมแต่ได้สินค้าน้อยลง เท่ากับว่าโดนเอาเปรียบไปแล้ว จึงอยากให้ผู้บริโภคคอยสังเกตเวลาเลือกซื้อสินค้าให้มากๆ จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบ”

สำหรับสินค้าที่มีแนวโน้มใช้วิธีการลดปริมาณบรรจุและลดขนาดบรรจุ เช่น สบู่ ทั้งแบบก้อนและแบบน้ำ แชมพูสระผม ผงซักฟอก ทั้งแบบผงและน้ำ น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์นม เป็นต้น

นายสมชาติกล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาในเบื้องต้น กรมฯ กำลังหารือร่วมกับผู้ผลิตว่าจะสามารถกำหนดปริมาณและขนาดบรรจุสินค้าชนิดเดียวกันให้มีมาตรฐานเหมือนกันได้หรือไม่ แต่หากทำไม่ได้เพราะเป็นการแข่งขันเสรี ก็จะมาดูว่าสินค้าที่มีแนวโน้มในการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตจากกรมฯ เพื่อปรับราคาหรือไม่ ถ้าต้องขอก่อนปรับก็จะเข้าไปดูแลเป็นพิเศษก่อนให้ปรับราคา โดยจะตรวจสอบว่ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่

ส่วนแนวโน้มภาวะราคาสินค้าในขณะนี้ สินค้ายังเคลื่อนไหวเป็นปกติ ไม่มีปัญหาการขาดแคลนหรือการปรับเพิ่มราคาเพราะผู้ผลิตมีการแข่งขันกันสูง อีกทั้งในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นปี จึงไม่มีผู้ผลิตรายใดยื่นเรื่องขอปรับราคา และเชื่อว่าแม้จะพ้นช่วงขอความร่วมมือไปแล้วก็จะไม่มีการยื่นขอปรับราคา เพราะแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ส่วนใหญ่ราคาลดลง จึงไม่มีแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิต

นายสมชาติกล่าวว่า กรมฯ กำลังศึกษาและทบทวนบัญชีสินค้าและบริการควบคุมที่จะนำมาใช้ในปี 2557 โดยกำลังดูว่าควรจะดึงสินค้าใดออกและนำสินค้าใดเข้าสู่บัญชีควบคุม ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาสินค้าและอุปกรณ์ไอที เพราะเป็นสินค้าที่มีคนใช้เพิ่มมากขึ้น และเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันไปแล้ว โดยจะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป คาดว่าจะเป็นช่วงต้นปี 2557