นักธุรกิจมองเศรษฐกิจไทยปี 2557 มีแนวโน้มฟื้นตัวตามทิศทาง ศก.โลก อาจลุ้นโตได้ 4-5% หากไม่มีปัจจัยการเมืองหรืออะไรมาสะดุด “หม่อมอุ๋ย” แนะรัฐบาลหากฉลาดปรับโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทโฟกัสแต่สิ่งจำเป็นจะทำให้ไทยเป็นฮับการค้าลงทุนภูมิภาคนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันปีหน้าขาลง สวนทางค่าไฟฟ้าที่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นจากการนำเข้า LNG
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการเสวนาเรื่อง Economic Outlook : ตามติดเศรษฐกิจไทยปี 2557 ว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2557 เชื่อว่าจะเติบโตได้ระดับ 4.5% หากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ มาทำให้เกิดปัญหาหรือสะดุดเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกภาพรวมจะฟื้นตัวทั้งสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ขณะเดียวกันไทยยังเป็นประเทศที่ได้เปรียบความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี 2558 เนื่องจากมีอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและมีฐานการผลิตอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เข้มแข็งสุดในภูมิภาคนี้ และยังมีภูมิศาสตร์ที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนได้อย่างดี
“งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทถ้ารัฐบาลฉลาดไทยก็จะเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาคนี้ได้ ซึ่งเห็นว่าควรจะตัดอะไรที่ไม่จำเป็นออกเพราะทำแล้วเจ๊งแน่ เช่น รถไฟความเร็วสูงไปเชียงใหม่ต้องตัดออก เอาเฉพาะที่จำเป็นคือรถไฟระบบรางคู่ และท่าเรือน้ำลึกปากบาราถือเป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมโยง โดยท่าเรือปากบารานั้นทั้งจีนและกัมพูชาอยากได้มาก และถ้าโฟกัสโครงการที่จำเป็นงบประมาณลงทุนก็ไม่เกิน 1.5 ล้านล้านบาท” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะโตได้ไม่เกิน 4% เนื่องจากเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 โตเพียง 2-3% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าควรจะโต 5% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองที่มีการคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมหากมีการยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจปี 2557 จากที่หลายฝ่ายคาดว่าจะขยายตัวได้ระดับ 5% ก็น่าจะเติบโตได้เพียง3.5-4% เท่านั้น
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2557 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 4% บวกหากไม่มีปัจจัยการเมืองเข้ามา เศรษฐกิจโลกน่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ซึ่งจะทำให้ภาคการส่งออกของไทยดีขึ้น
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า ปี 2557 ราคาน้ำมันในไทยส่วนของเบนซินและแก๊สโซฮอล์มีโอกาสปรับลดลงตามทิศทางราคาตลาดโลก ที่ปีหน้าคาดว่าจะอ่อนตัวลงจากการผลิตที่ยังสูงกว่าความต้องการ ประกอบกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มมีรายได้เพิ่มจากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ส่วนดีเซลหากรัฐบาลไม่ทยอยเรียกคืนภาษีสรรพสามิตดีเซลก็คงจะตรึงที่ระดับ 30 บาทต่อลิตร ขณะที่แนวโน้มค่าไฟฟ้าปี 2557 มีทิศทางที่จะปรับเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่สูงขึ้นเนื่องจากราคานำเข้าสูง 15 เหรียญสหรัฐต่อล้านลูกบาศก์ฟุต ขณะเดียวกันรัฐส่งเสริมใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านที่จะมีผลต่อค่าไฟเพิ่ม แต่กรณีนี้ก็เห็นด้วยเพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงแต่ก็ต้องไม่มากเกินไป