“นันทวัลย์” สั่งทำแผนสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย โปรโมตลงนิตยสาร-ทีวีเมืองนอก

“นันทวัลย์” โชว์แผนดันส่งออกปี 57 เตรียมโปรโมตสินค้าไทยผ่านนิตยสาร ทีวีต่างประเทศ เจาะลึกเป็นรายสินค้า หวังช่วยสร้างการยอมรับและเพิ่มยอดส่งออก พร้อมเน้นดันส่งออกเจาะกลุ่มลูกค้าสูงอายุ กลุ่มสถาบัน สินค้าเทรนด์ใหม่ของโลก และเพิ่มทำตลาดค้าขายออนไลน์ เตรียมปั้นนักธุรกิจไทยเป็นเทรดเดอร์เลียนแบบสิงคโปร์โมเดล

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าไทยในปี 2557 ว่า กรมฯ มีแผนที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้สินค้าไทยเป็นรายกลุ่มสินค้า โดยจะทำการโปรโมตผ่านนิตยสาร แมกกาซีน โทรทัศน์ บิลบอร์ด ในประเทศเป้าหมาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จัก และสร้างการยอมรับต่อสินค้าไทยและประเทศไทย ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยมีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น และทำให้ภาพลักษณ์สินค้าไทยดีขึ้นในสายตาต่างประเทศ

“ได้ขอให้ทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศไปดูว่าประเทศที่ประจำอยู่ สินค้าไทยอะไรมีขีดความสามารถในการบุกเจาะตลาดก็จะเข้าไปพีอาร์สินค้าไทยชนิดนั้นๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และโปรโมตผ่านสื่อเฉพาะของสินค้านั้นๆ อย่างเช่น อาหาร ก็จะเน้นหนังสือ นิตยสาร หรือรายการทีวีที่เกี่ยวกับอาหาร อัญมณี สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ ก็จะใช้หลักการเดียวกันนี้ในการโปรโมต”

นางนันทวัลย์กล่าวว่า กรมฯ ยังจะเน้นการผลักดันการส่งออกสินค้าเจาะลูกค้าเป็นรายกลุ่ม หรือสินค้าที่เป็นเทรนด์ใหม่ของโลก อย่างเช่น สินค้ากลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มฮิสแปนิกในสหรัฐฯ กลุ่มลูกค้าสถาบัน เช่น โรงแรม เรือสำราญ สถาบันการศึกษา ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ กลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เสื้อผ้า อาหาร ที่มีลักษณะพิเศษ ตอบสนองความต้องการแบบพิเศษ เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นกลุ่มที่มีโอกาสในการส่งออกสูง

ขณะเดียวกัน จะให้ความสำคัญต่อการทำตลาดแบบออนไลน์ โดยใช้สื่อออนไลน์มาเป็นตัวกลางในการเปิดตลาดให้แก่สินค้าไทย เพราะแนวโน้มของโลกได้หันมาซื้อขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันไทยสามารถค้าขายออนไลน์ได้แล้วมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท การผลักดันการส่งออกบริการใหม่ๆ เช่น ดิจิตอล คอนเทนต์ ได้แก่ ซอฟต์แวร์ เกม แอนิเมชัน เพลง ละคร และภาพยนตร์ รวมถึงบริการอีเวนต์ ออแกไนเซอร์ และโรงเรียนสอนหลักสูตรพิเศษ ซึ่งจะเน้นตลาดอาเซียนเป็นหลัก

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ จัดทำเป้าหมายในการทำงาน และต้องติดตามผลการทำงาน เช่น ต้นปีใครมาติดต่อเพื่อขอให้ช่วยเปิดตลาดสินค้า หรือช่วยหาลู่ทางการทำการค้า การลงทุน สิ้นปีจะต้องติดตามผลว่าเป็นอย่างไร ประสบผลสำเร็จหรือไม่ ซึ่งจะขอใช้เป็นตัวชี้วัดการทำงานด้วย ทั้งนี้ ให้เน้นตลาดอาเซียนเป็นพิเศษเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

นางนันทวัลย์กล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเป็นผู้ค้าระหว่างประเทศ (เทรดเดอร์) โดยทำตัวเป็นคนกลางรับออเดอร์ แล้วนำสินค้าที่ผลิตได้เอง หรือนำสินค้าของผู้ผลิตรายอื่น หรือสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอมอี) สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ไปขายไปส่งออก โดยทำตัวเหมือนกับที่สิงคโปร์ทำ และต่อไปให้ขยายไปถึงการเป็นเทรดเดอร์รับคำสั่งซื้อจากประเทศต่างๆ แล้วมาเสาะหาสินค้าไปส่งออก ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าในประเทศ หรือสินค้าจากประเทศอื่นๆ ก็ได้

สำหรับแนวโน้มการส่งออกในปี 2557 กรมฯ ประเมินว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีอัตราการขยายตัวได้ดีกว่าปี 2556 เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งในวันที่ 11 พ.ย. 2556 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จะประชุมร่วมกับสมาคมการค้าต่างๆ เพื่อร่วมกันจัดทำแผนผลักดันการส่งออก และกำหนดเป้าหมายการส่งออกในปี 2557 ร่วมกัน