“เป๊ปซี่” ฟื้นชีพ แบรนด์ “เมาเทนดิว” ในไทยอีกรอบ รุกตลาดน้ำสีในไทย หลังเดี้ยงในอดีตมาแล้ว ชูกลยุทธ์ตลาด 360 องศา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำอัดลมแบรนด์ “เมาเทนดิว” ของกลุ่มเป๊ปซี่-โคล่า ได้หวนกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่ต่ำกว่า 20 ปีมาแล้ว เมาเทนดิว เคยทำตลาดในไทย แต่เพราะไม่ประสบความสำเร็จจึงได้ถอนตัวออกจากตลาดน้ำอัดลมไทยไป อย่างไรก็ตามคราวนี้ถือเป็นการกลับมาใหม่อีกครั้ง ด้วยการทำตลาดของเป๊ปซี่เอง ขณะที่ในตลาดโลก เมาเทนดิว ก็ยังมีจำหน่ายอยู่ปรกติ และที่จำหน่ายดีในเอเซียเช่นในประเทศ จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เป็นต้น
นางลัดดาวรรณ เลิศวศิน ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเมาเทนดิวในไทยครั้งนี้ ได้พยายามที่จะสร้างการเติบโตในตลาดน้ำสีในไทยให้ได้ จากปัจุบันตลาดรวมน้ำอัดลมประเภทน้ำสีในไทยที่มีมูลค่าสูงกว่า 13,000 ล้านบาท โดยตลาดรวมน้ำสีปีที่แล้วเติบโตประมาณ 8% ส่วนปีนี้ถึงปัจจุบันเติบโตรวม 14% แล้ว ขณะที่ตลาดน้ำอัดลมรวมในไทแบ่งเป็น น้ำดำ 70% และน้ำสี 30%
การทำตลาดครั้งนี้จะใช้กลยุทธ์ 360 องศา ทั้ง สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อดิจิตอล สื่อกลางแจ้ง สื่อณจุดขายร้านค้า ตลอดจนกิจกรรมประชาสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆ ที่ถึงผู้บริโภค รวมทั้งหนังโฆษณาชุดใหม่ที่ออกอากาศวันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นไป อีกทั้งมีการจัดโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อโปรโมตและแจกสินค้าตัวอย่างเป็นขวดเพ็ทขนาด 400 มิลลิลิตร จำนวนกว่า 2 ล้านขวด
ปัจจุบันสินค้าเริ่มวางจำหน่ายเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว ทุกช่องทางการจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนัลเทรด มีทั้งหมด 4 ขนาด คือ ขวดเพ็ทขนาด 400 มล.ราคา 12 บาท ขวดเพ็ทขนาด 495 มล. ราคา 18 บาท สลิมแคนราคา 12 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 23 บาท โดยแพกเกจจิ้งเป็นขวดเพ็ทนีออนเรืองแสงสีเขียวครั้งแรกในไทย จากการผลิตของโรงงานเป๊ปซี่เอง โดยขณะนี้มี 7 ไลน์การผลิตแล้ว มีกำลังผลิตประมาณ 600-800 ขวดต่อนาที และแบบกระป๋องประมาณ 1,000 กระป๋องต่อนาทีรมกันทุกแบรนด์
ทั้งนี้ การทำตลาดในไทยจะใช้คอนเซปท์ “กล้า ท้า ลอง” จับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่ชื่นชอบความท้าทาย ซึ่งเมาเทนดิวเป็นน้ำอัดลมที่มมีความโดดเด่นในเรื่องรสชาติและเอกลักษณ์ของแบรนด์ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่ซ้ำซ้อนกับแบรนด์เซเว่นอัพที่อยู่ในเครือเป๊ปซี่เช่นเดียวกัน