“กฟผ.” เช็กสภาพเขื่อนทั่วประเทศ ยืนยันทุกภาคเอาอยู่! โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์เกาะติดใกล้ชิด พร้อมรับมือ “หวู่ติ๊บ” ได้แน่ คาด ต.ค.ฤดูฝนเริ่มลดลงต่อเนื่องหากปริมาณฝนไม่เพิ่มจากนี้ ยังห่วงเขื่อนภาคเหนือที่อาจมีน้ำน้อยกว่าปกติได้
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กฟผ.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าเขื่อนในปริมาณมากเพราะขณะนี้ภาคอีสานกำลังได้รับอิทธิพลจากพายุหวู่ติ๊บ โดยล่าสุดเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาตรน้ำ 1,574 ล้านลูกบาศเมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 65% สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 857 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น
“เขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ต้องติดตามใกล้ชิดคืออุบลรัตน์ ขณะที่เขื่อนสิรินธรนั้นแม้ว่าจะมีปริมาตรน้ำ 1,752 ลบ.ม.หรือคิดเป็น 89% มีช่องว่างยังรับน้ำได้อีกเพียง 214 ล้าน ลบ.ม. และได้ปิดการระบายน้ำผ่านประตูน้ำล้นแล้วเมื่อ 30 ก.ย.เวลา 14.00 น. แต่แม้จะมีน้ำไหลเข้าอีกก็จะไม่กระทบมากเพราะน้ำจะไหลเข้าแม่น้ำโขงเป็นหลัก” นายสุนชัยกล่าว
สำหรับเขื่อนภาคเหนือปัจจุบัน เขื่อนภูมิพลมีปริมาตรน้ำ 5,993 ล้าน ลบ.ม.หรือ 45% เหลือช่องว่างสามารถรองรับน้ำได้อีก 7,469 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำ 5,610 ล้าน ลบ.ม.หรือ 59% เหลือช่องว่างสามารถรองรับน้ำได้อีก 3,900 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งถือว่าไม่มีปัญหาและฤดูฝนจะหมดในเดือน ต.ค.นี้ กฟผ.เองกลับกังวลว่าจะเกิดภัยแล้งมากกว่าด้วยซ้ำ ส่วนภาคตะวันตก เขื่อนศรีนครินทร์มีปริมาตรน้ำ 15,012 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 85% เหลือช่องว่างสามารถรองรับน้ำได้อีก 2,733 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ์มีปริมาตรน้ำ 7,326 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 83% ยังรับน้ำได้อีก 1,534 ล้าน ลบ.ม.
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวว่า จากการเกิดภาวะน้ำท่วมหลายพื้นที่ ยืนยันว่าทุกฝ่ายได้เข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้มีปัญหาขาดแคลนพลังงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางกระทรวงพลังงานร่วมกับหน่วยงานในสังกัดได้ปล่อยขบวนคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบถุงยังชีพจำนวน 44,000 ถุงเพื่อไปแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน โดยกระทรวงพลังงานจะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง