พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่น้ำท่วมในอำเภอเสนา เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำหนิทำงานของชลประทานจังหวัด และ ปภ.ที่ทำงานล่าช้า รายงานสถานการณ์ไม่เป็นไปตามความจริง พร้อมสั่งกำชับทุกหน่วยงานในพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่เทศบาลตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอเสนา พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เสนา
ทั้งนี้ ในการประชุม นายวิทยา ได้ตำหนิการทำงานของชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ทำงานล่าช้า รายงานสถานการณ์ไม่เป็นไปตามความจริง และไม่มีความชัดเจน
ส่วนการแจ้งเตือนประชาชนนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งกำชับขอให้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้มีความเข้าใจง่าย และรวดเร็วมากขึ้น และให้ติดตามสถานการณ์พายุและปริมาณฝน รวมทั้งการระบายน้ำของเขื่อนต่างๆ อย่างต่อเนื่องของน้ำทุกสาย รวมถึงจัดให้หน่วยงานราชการรับผิดชอบในพื้นที่ได้เฝ้าดูช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดด้วย
จากนั้น นายวิทยา ได้ลงเรือออกสำรวจภายในแม่น้ำน้อย พบว่าระดับได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน แต่ส่วนใหญ่บ้านเรือนประชาชนได้มีการยกพื้นสูง จึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก มีเพียงความเดือดร้อนในเรื่องของการสัญจรไปมาเข้าออกหมู่บ้าน จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมบางส่วน พร้อมร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่แจกยาสามัญประจำบ้านให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ในช่วงที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม
นายวิทยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีมาตรการหลังจากตอนนี้พายุฝนตกลงมากว่า 2 อาทิตย์ ตกใต้เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล ทำให้ปริมาณที่สะสมไหลลงมาในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ขณะนี้พบว่าในพื้นที่ อ.เสนา มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้ว 1,800 หลังคาเรือน หน่วยงานราชการในพื้นที่ก็เร่งลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนที่เผชิญเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้ว ด้านสาธารณสุขอำเภอต่างๆ ลงพื้นที่แจกยา ในเรื่องของโรคที่มากับน้ำ เชื่อว่าน้ำนี้จะอยู่ไม่นานก็จะผ่านไปได้ด้วยดี ฝากเตือนพี่น้องประชาชนในส่วนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าดูสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเตรียมยกข้าวของขึ้นที่สูงโดยเฉพาะไฟฟ้า ให้ย้ายขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ส่วนเกษตรกรที่ยังค้าง หรือยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 7,000 ไร่ ในแต่ละพื้นที่ในอำเภอต่างๆ ได้ให้นายอำเภอเสนา บางบาล บางไทร ลาดบัวหลวง ผักไห่ สำรวจพื้นที่เกษตรกรทำการเก็บเกี่ยวแล้ว ส่วนนาข้าวที่ยังไม่ได้ทำการเก็บเกี่ยวได้สั่งให้นายอำเภอ พร้อมกับชลประทานจังหวัด เกษตรจังหวัด ให้ความช่วยเหลือ จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำไว้ เนื่องจากจะมีพายุโซนร้อนที่จะส่งผลกระทบต่อนาข้าวของเกษตรกร ในการจัดเตรียมกระสอบทราย น้ำมัน ไม้ทำสะพาน ซึ่งคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกระยะหนึ่ง และจะกลับสู่สภาวะปกติ