xs
xsm
sm
md
lg

“นูสกิน” รุกขายตรงเวียดนาม-ชี้ตลาดโตเร็วติดท็อปเท็นโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นูสกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
“นูสกิน” ใช้ไทยเป็นฐานรุกตลาดขายตรงสู่เวียดนาม ชี้เป็นตลาดบ่อทองสำคัญ โตสูงสุดติดท็อปเท็นนูสกินทั่วโลก และโตเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ลั่นปีนี้ขอรายได้ 450 ล้านบาท

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นูสกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย่า นูสกินได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศเวียดนามโดยทีมงานของนูสกินไทยด้วยการตั้งสำนักงานที่โฮจิมินห์ เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2555 และถือเป็นประเทศที่ 53 ของนูสกินทั่วโลก และเป็นตลาดที่ 7 ในกลุ่มประเทศอาเซียนนี้ (ประเทศที่ยังไม่ได้ขยายเข้าไปคือ กัมพูชา พม่า ลาว) ที่ผ่านมาเกือบ 1 ปีได้รับความสำเร็จอย่างมาก โดยมียอดขายสิ้นปีที่แล้วประมาณ 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดขายตรงในเวียดนามถือเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในกลุ่มอาเซียนด้วยกันด้วยหลายปัจจัย ทั้งจำนวนประชากรมากกว่า 90 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก มีมูลค่าตลาดรวมขายตรงประมาณ 8,500 ล้านบาท เติบโต 12% เติบโตสูงเป็นอันดับที่สองในกลุ่มอาเซียน แต่เติบโตติดท็อปเท็นของอุตสาหกรรมขายตรงโลกด้วย ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนธุรกิจขายตรงในเวียดนาม 54 บริษัท (บริษัทท้องถิ่น 83% และต่างชาติ 17%)

ขณะที่ตลาดขายตรงในอาเซียนมีมูลค่ารวม 310,000 ล้านบาท หรือประมาณ 10,372 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตลาดใหญ่คือ มาเลเซีย 4,600 เหรียญสหรัฐ เติบโต 7% ไทยมูลค่า 2,900 เหรียญสหรัฐ เติบโต 7% อินโดนีเซียมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 11% ฟิลิปปินส์มูลค่า 1,000 เหรียญสหรัฐ เติบโต 31%

“ตอนนี้ตลาดขายตรงของเวียดนามเติบโตอย่างมาก แต่ก็ยังเป็นช่วงการเปิดตลาดใหม่ของเรา เราต้องสร้างฐานตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีคนรุ่นใหม่กว่า 57% ต้องการโอกาสทำธุรกิจตัวเอง หาโอกาสทางการทำงานใหม่ๆ และผู้คนต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและมีแบรนด์มากขึ้นจึงเหมาะที่จะขยายฐานได้ แต่ก็ยังมีประเด็นเรื่องข้อห้ามเรื่องขายตรงที่เวียดนามเข้มงวดมาก เรื่องขายตรงก็ยังใหม่มาก”

ในแง่ของผลิตภัณฑ์นั้น นางภคพรรณกล่าวว่า ตลาดขายตรงเวียดนามมีสัดส่วนยอดขายแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่วนแบ่ง 59% ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือสกินแคร์ 31% และกลุ่มโฮมแคร์ 10% ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคคนเวียดนามชอบสินค้าแบรนด์เนมเรื่องความสะดวกสบาย 75% และเลือกสุขภาพปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม นูสกินตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายในเวียดนามปี 2556 นี้ประมาณ 450 ล้านบาท และจะมีจำนวนสมาชิกกว่า 30,000 รหัสบัญชี ปัจจุบันมีผู้บริหารระดับบลูไดมอนด์ 8 รายชื่อ จากศูนย์บริการ 2 สาขา คือที่โฮจิมินห์ และฮานอย ลงทุนรวม 30 ล้านบาท และปีหน้ามีแผนที่จะเปิดสาขาแห่งสามที่เมืองดานัง

สำหรับสัดส่วนยอดขายของนูสกินขณะนี้เป็นผลิตภัณฑ์เอจล็อก 65% ผลิตภัณฑ์อื่นๆ 35% โดยมาจากสินค้ากว่า 40 รายการ แบ่งเป็น สกินแคร์ 70% ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 30%


กำลังโหลดความคิดเห็น