รัฐบาลเตรียมยกร่างประกาศเดินหน้าแผนลงทุน PPP ก่อนเดินหน้าเมกะโปรเจกต์

รัฐบาลเตรียมยกร่างประกาศเดินหน้าแผนลงทุน PPP ทั้งรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 เส้นทาง จากโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล รวมถึงโครงการลงทุนของทุกหน่วยงานที่มีวงเงินลงทุนตามกำหนด คาดออกประกาศเป็นกระทรวงเพิ่มเติม 6 ด้าน

นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานวานนี้ (30 ก.ย.) ได้พิจารณากรอบแผนยุทธศาสตร์ PPP สำหรับเป็นแผนแม่บทให้หน่วยงานเจ้าของโครงการลงทุนได้ปฏิบัติตามแผนการลงทุนตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ในแผน เมื่อสรุปเสร็จเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาเดือนตุลาคมนี้

สำหรับโครงการลงทุนที่เข้าข่ายการพิจารณาของคณะกรรมการ PPP โดยเป็นการลงทุนในทุกด้าน ทั้งรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 เส้นทาง จากโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล รวมถึงโครงการลงทุนของทุกหน่วยงานที่มีวงเงินลงทุนตามกำหนด ทั้งนี้ เพื่อให้แผนลงทุนเดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องออกประกาศกระทรวงเพิ่มเติม 6 ด้าน

ประกอบด้วย 1. ร่างประกาศหลักเกณฑ์และวิธีรับฟังความเห็นจากประชาชน ตามแผนยุทธศาสตร์ PPP เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงความเห็น เพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการ 2. ร่างประกาศบัญชีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการกำกับดูแล เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากบุคคลภายนอกได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกโครงการลงทุนและติดตามประเมินผลให้มีความโปร่งใสมากขึ้น 3. ร่างประกาศรายละเอียดของผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ เพื่อกำหนดแนวทางการศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ ให้ออกแบบสัญญาที่เป็นมาตรฐานเพื่อใช้ในโครงการต่างๆ 4. ร่างประกาศคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษาโครงการลงทุน เพื่อกำหนดคุณสมบัติของที่ปรึกษา โดยต้องขึ้นบัญชีสำหรับบริษัทที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีข้อห้ามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่ไม่ให้ไปทำงานร่วมกับเอกชนคู่สัญญาในระยะเวลา 2 ปี หากทำผิดจะมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 5. ร่างประกาศคุณสมบัติของเอกชนที่ไม่สมควรร่วมลงทุนในกิจการรัฐและบุคคลที่ไม่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา หวังปิดช่องโหว่การทุจริตเพื่อให้โครงการลงทุนของรัฐมีความโปร่งใสมากขึ้น