xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.เกาะติดน้ำในเขื่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมรับมือพายุดีเปรสชันลูกใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อิทธิพลพายุดีเปรสชันส่งผลให้เขื่อนสิรินธรมีปริมาณน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นเกิน 90% ของความจุ กฟผ.เร่งควบคุมระดับน้ำในเขื่อนและการระบายน้ำให้เหมาะสม เตรียมสำรองช่องว่างสำหรับรับน้ำเพิ่มจากพายุดีเปรสชันที่กำลังก่อตัว และเคลื่อนสู่ประเทศไทยในอีกไม่ช้า
 
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันที่เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม แล้วเคลื่อนผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางมีฝนตกชุกหนาแน่น ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน กฟผ.หลายแห่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขื่อนสิรินธรได้รับผลกระทบโดยตรง มีฝนตกหนักในพื้นที่ด้านเหนือเขื่อน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนในปริมาณมากติดต่อกันหลายวัน รวมปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันตั้งแต่วันที่ 16-21 กันยายน 2556 รวม 567 ล้าน ลบ.ม.

ระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเหลือความจุรองรับน้ำได้อีกไม่มาก จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มผ่านประตูระบายน้ำล้น (Spillway) ซึ่งการดำเนินการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น กฟผ.ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอ และผู้นำชุมชนด้านท้ายเขื่อน ตลอดจนส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนและแจ้งเตือนก่อนเริ่มเปิดบานประตูระบายน้ำล้น

ทั้งนี้ เขื่อนสิรินธรเริ่มเปิดบานประตูระบายน้ำล้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 10.29 น. ซึ่งขณะนั้นมีปริมาณน้ำในเขื่อน 93% มีช่องว่างในอ่างฯ เพียง 130 ล้าน ลบ.ม. หรือ 46 ซม.
 
กฟผ.จึงขยับบานประตูขึ้นทีละน้อย ซึ่งจากการติดตามระดับน้ำในอ่างฯ ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงการเปิดบานประตูระบายน้ำล้นเพื่อรักษาระดับน้ำในอ่างฯ ให้เป็นไปตามระดับน้ำควบคุม (Upper Rule Curve) ทั้งนี้ กฟผ.จำเป็นต้องสำรองช่องว่างในอ่างฯ สำหรับรับน้ำจากพายุดีเปรสชันที่กำลังก่อตัวในทะเล ซึ่งอาจมีทิศทางการเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทยเหมือนลูกที่ผ่านมาได้

“ปัจจุบัน (25 กันยายน 2556 เวลา 24.00 น.) เขื่อนสิรินธรมีปริมาตรน้ำ 1,723 ล้าน ลบ.ม. หรือ 88% มีช่องว่างสามารถรองรับน้ำได้อีก 244 ล้าน ลบ.ม. สำหรับเขื่อนอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพล และมีปริมาณน้ำในอ่างฯ เพิ่มขึ้นเกิน 80% ของความจุ คือ เขื่อนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ ร้อยละ 83 ของความจุ แต่ยังมีความจุรองรับน้ำได้อีกเกือบ 3,000 ล้าน ลบ.ม. จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง ด้านเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ เพิ่มขึ้นเป็น 55% ของความจุ และมีระดับน้ำในอ่างฯ สูงกว่าระดับน้ำควบคุม(Upper Rule Curve) กำลังปรับเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 3 ล้าน ลบ.ม.เป็นวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เพื่อเตรียมรับสถานการณ์พายุดีเปรสชันที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเขื่อนอุบลรัตน์ได้ ส่วนเขื่อนอื่นๆ สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด”
กำลังโหลดความคิดเห็น