ASTVผู้จัดการรายวัน - ปัจจัยลบสะกัดซีทีเอชไปไม่ถึงฝัน เดินหนัาสะดุดอ้างฝนแรง ละเมิดลิขสิทธิ์รุม ส่งปัญหาติดตั้งล่าช้า คาดสิ้นปีได้ 1 ล้านรายจากเป้า 1.5 ล้านราย มั่นใจยังคุ้มทุนใน 3 ปี ล่าสุดจับมือผู้ประกอบการในลาว ทุ่ม 100 ล้านบาทลุยเคเบิลทีวี เริ่มได้ ต.ค.นี้ มั่นใจคุ้มทุนใน 3 ปี ส่วนเขมรกำลังศึกษาอยู่
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เดิมถึงสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีสมาชิกรวมทั้งเก่าและใหม่ที่ 1.5 ล้านราย แต่หลังจากที่ได้เริ่มติดตั้งไปแล้วประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมาสามารถติดตั้งได้เพียง 5 แสนราย แบ่งเป็นแบบเคเบิล 65% และแบบจาน 35% จากตัวเลขที่รอการติดตั้งทั้งหมด 8 แสนราย ทำให้ต้องมีการปรับเป้าปลายปีนี้ใหม่อีกครั้ง
ส่วนสำคัญมาจากปัญหาการติดตั้งที่พบว่าในส่วนเคเบิลมีปัญหาโครงข่ายเน็ตเวิร์กเต็ม ต้องมีการอัปเกรดเน็ตเวิร์ก ขยายสัญญาณเพิ่มเป็นระยะๆ ส่วนแบบจานช่วงนี้ฝนตกหนักเป็นอุปสรรคในการติดตั้งอย่างมาก ขณะที่ยอดสมาชิกใหม่ที่ติดต่อขอติดตั้งลดลงด้วยเช่นกัน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3,000 คน จากที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,000 คนต่อวัน หรือในเดือนนี้ยอดหายไปกว่า 1 แสนราย ทำให้มองว่าถึงสิ้นปีนี้น่าจะติดตั้งครอบคลุมได้ราว 1 ล้านรายทั้งสมาชิกเก่าและใหม่รวมกัน จากเป้าเดิมที่วางไว้ 1.5 ล้านราย ซึ่งหลังจากเดือนหน้าเป็นต้นไปน่าจะกลับมาติดตั้งได้เช่นเดิม หรือน่าจะทำได้ 1.5 ล้านรายภายในครึ่งปีแรกของปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้บริษัทจะมีโปรโมชันแพกเกจออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงสมาชิกใหม่เข้ามา แต่ทั้งนี้ประโยชน์ที่จะได้รับจะไม่เท่ากับสมาชิกที่ซื้อแพกเกจไปในช่วงแรก ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่ได้รับการติดตั้งกล่อง บริษัทยังคงรักษาสิทธิ์ไว้ให้และจะรีบเร่งติดตั้งให้เร็วที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีการยกเลิกติดตั้งลง ส่วนในแง่สปอนเซอร์เข้าใจดีถึงสถาณการณ์ที่เกิดขึ้น
“โอกาสที่สูญเสียไปในครั้งนี้มองว่ายังไม่หนักมาก และไม่มีความกังวล ถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น ส่วนกลุ่มการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเพียงส่วนน้อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นภายในกลางปีหน้าจะสามารถติดตั้งได้ครอบคลุม 1.5 ล้านราย แม้จะล่าช้าไปเล็กน้อย โดยยังคงมั่นใจว่าจะยังคุ้มทุนใน 3 ปี หรือมีฐานสมาชิกที่ 3 ล้านราย”
นายกฤษณันกล่าวต่อว่า ล่าสุดวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับทางผู้ประกอบการท้องถิ่นในลาวร่วมทุนจัดตั้งบริษัท CTH SNN Televistion (สปป.ลาว) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ซึ่งซีทีเอชถือหุ้น 60%, SNN 30%, ผู้ประกอบการ 10% คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงกลางเดือน ต.คเป็นต้นไป โดยบริษัทได้นำคอนเทนต์ช่องรายการไปกว่า 10 ช่อง และช่องกีฬาพรีเมียร์ลีกอีก 5 ช่อง และร่วมผลิตอีก 2 ช่อง คาดว่าจะมีสมาชิกราว 2 แสนราย ค่าบริการวางไว้ที่ไม่เกิน 600 บาทต่อเดือน ต่อปีคาดมีรายได้ 120 ล้านบาท หรือน่าจะคุ้มทุนใน 3 ปี และมีสมาชิกเพิ่มเป็น 4 แสนราย
“แผนการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นการมองโอกาสการลงทุนมากขึ้น จากเดิมที่มองแค่ขายสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเท่านั้น โดยการลงทุนในต่างประเทศจะมองถึงโอกาสในการทำบรอดแบนด์ด้วย ในลาวจะเริ่มทำบรอดแบนด์ได้ช่วงกลางปีหน้า ส่วนในไทยจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาสสอง ส่วนในเขมรถือเป็นอีกประเทศที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางธุรกิจที่จะเข้าไปทำอยู่ นอกจากนี้ยังมองว่าพม่าเป็นอีกประเทศที่น่าสนใจเข้าไปลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน” นายกฤษณันกล่าว