xs
xsm
sm
md
lg

“ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์” ปัดฝุ่น “ซัมเมอร์” ลุยน้ำผักผลไม้-ลดเสี่ยงโออีเอ็ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไวฮุย ลี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟู้ดแอนด์ดริ๊งค์ จำกัด
“ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์” ซุ่มพัฒนาแบรนด์ก่อนส่ง “ซัมเมอร์” 2 ชนิดลุยเครื่องดื่มน้ำผัก-ผลไม้ หวังทำยอดขาย 120 ล้านบาทในสิ้นปี 56 ก่อนเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ของรายได้รวมใน 3 ปี เผยธุรกิจหลัก OEM ได้รับผลกระทบรอบด้านทั้งค่าแรง 300 บาท ค่าน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ มั่นใจบุกตลาดเออีซีได้ในปี 58

น.ส.ไวฮุย ลี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์ จำกัด ผู้รับจ้างผลิตสินค้า (OEM) แบรนด์ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักจากการรับจ้างผลิตสินค้าประเภทต่างๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำผักและผลไม้ อาหารสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และอาหารสำเร็จรูป เช่น น้ำพริกแกง และซอสชนิดต่างๆ ในสัดส่วน 98% ของยอดการผลิตทั้งหมด โดยมากกว่า 50% เป็นการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ ออสเตรเลีย ในสัดส่วนสูงสุดคือ 40% ยุโรป 25% ญี่ปุ่น 25% สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอื่นๆ 10% โดยในปี 2555 บริษัทมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2556 จะยังคงรักษายอดขายได้เท่าเดิม

“ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทค่อนข้างประสบปัญหาด้านการรักษาอัตราการเติบโตทางด้านรายได้ เนื่องจากบริษัทเน้นการผลิตโดยใช้วัตถุดิบในลักษณะฤดูกาลต่อฤดูกาล หรือตามคำสั่งซื้อของลูกค้าเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังมีลูกค้าบางส่วนที่หันไปเปิดโรงงานผลิตเองหลังจากที่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ประกอบกับยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ล้วนแต่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ราคาผลไม้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า รวมไปถึงปัญหาค่าแรง 300 บาท ราคาน้ำมัน ต้นทุนการขนส่ง และอื่นๆ จึงทำให้ยอดขายของบริษัทในแต่ละปีมีขึ้นและลงสลับกันไป โดยไม่สามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงกำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อใช้เป็นแบรนด์ของบริษัทภายใต้ชื่อ “ZUMMER” (ซัมเมอร์) โดยเบื้องต้นมี 2 ชนิดคือ น้ำบ๊วยผสมเนื้อบ๊วย และน้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำผึ้งมะนาว หลังจากที่ก่อนนั้นเคยผลิตชาเขียวโดยใช้ชื่อเดียวกันเมื่อประมาณ 7 ปีก่อนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก
สายการผลิตน้ำบ๊วยผสมเนื้อบ๊วยตรา ซัมเมอร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการวางจำหน่ายครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในสิ้นปี 2557
“การนำแบรนด์ซัมเมอร์เข้าสู่ตลาดชาเขียวในครั้งนั้น เราไม่ถือเป็นการลงทุนโดยเปล่าประโยชน์แต่อย่างใด ยกเว้นการเสียโอกาสทางการตลาดเท่านั้น เนื่องจากการลงทุนด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยีต่างๆ ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้การพัฒนาแบรนด์ซัมเมอร์ครั้งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินธุรกิจ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2559 โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้บริษัทเพิ่มขึ้น 20% โดยคาดว่าภายในปี 2556 จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 ชนิด พร้อมสามารถทำรายได้อย่างน้อย 120 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ชนิดในปี 2557”

บริษัทมีการทดลองวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซัมเมอร์ในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยวางจำหน่ายเฉพาะร้านแฟมิลี่มาร์ท และท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ แบ่งเป็นแฟมิลี่มาร์ทกว่า 800 สาขา และท็อปส์ ซูเปอร์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ กว่า 200 สาขา โดยล่าสุดบริษัทมีการเซ็นสัญญากับบริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในสิ้นปี 2556

“ในช่วงแรกบริษัทใช้งบประมาณด้านการตลาดกว่า 30 ล้านบาทในการแจกสินค้าทดลองชิมฟรี รวมถึงกิจกรรมโรดโชว์ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งอาคารสำนักงานย่านธุรกิจ ตลาดนัดจตุจักร และอื่นๆ โดยในช่วงเดือน ต.ค.ศกนี้จะเริ่มมีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์และการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตเดือนละประมาณ 8 ล้านขวด ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี”

บริษัทยังให้ความสนใจในการผลิตเพื่อรองรับการขยายตลาดกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งยังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกมาก ขณะที่รสชาติของสินค้าก็ค่อนข้างจะถูกปากผู้บริโภคชาวอาเซียน จึงเชื่อว่าบริษัทมีความพร้อมและศักยภาพเพียงพอที่จะขยายฐานไปสู่ตลาดอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพภายหลังจากปี 2558


กำลังโหลดความคิดเห็น