เปิดโรงงานใหม่บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ เดินสายการผลิต 4 หมื่นขวดต่อชั่วโมงให้แบรนด์ต่างๆ กว่า 20 ประเทศ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในอาเซียน ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 2 พันล้านบาท และคืนทุนก่อนเปิดตลาดเออีซีในปี 2558
นายพงศกร พงษ์ศักดิ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 5 พันล้านบาทในการเปิดโรงงานบนพื้นที่ 60 ไร่ ภายในเขต อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อดำเนินการผลิตสินค้าเครื่องดื่มให้แบรนด์ชั้นนำต่างๆ หรือ Co-packing ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยแผนการดำเนินงานสร้างโรงงานแห่งนี้แบ่งเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรกใช้งบลงทุนประมาณ 1.2 พันล้านบาท เพิ่งสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเดินสายผลิตเมื่อช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเฟส 2 คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณกลางปี 2557 โดยคาดว่าจะสร้างเสร็จครบพื้นที่จนสามารถเป็นโรงงานรับจ้างผลิตเครื่องดื่มที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใน 4-5 ปี
สาเหตุที่บริษัทลงทุนครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าเป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ โดยรายงานของเอซีนีลเส็นระบุว่า อุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตทุกๆ ปี เนื่องจากประเทศไทยมีอุณหภูมิที่ร้อนส่งผลให้ประชากรมีความต้องการบริโภคเครื่องดื่มดับกระหายเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องจนทำให้ภาวะการแข่งขันในตลาดเป็นไปอย่างรุนแรง ขณะที่ผู้ประกอบการบางแบรนด์ไม่ต้องการที่จะลงทุนสร้างโรงงานเพื่อเป็นการลดต้นทุน จึงมองหาบริษัทรับจ้างผลิตเครื่องดื่มที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยดูแลแทน
“บริษัทฯ ยังมีแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถให้คำปรึกษากับลูกค้าที่ต้องการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีออกสู่ตลาดในหลายๆ รูปแบบ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค จึงทำให้มั่นใจว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้ที่ดี โดยในปีแรกตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2 พันกว่าล้านบาท และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานจะสามารถคืนทุนได้ รวมถึงรองรับการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558”
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับจ้างผลิตเครื่องดื่มให้กับแบรนด์ชั้นนำในประเทศหลายๆ แบรนด์ และเริ่มมีแบรนด์อื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศติดต่อเข้ามากว่า 20 บริษัท โดยขณะนี้บริษัทได้เดินสายโรดโชว์ในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เพื่อสร้างการรับรู้ในการเป็นบริษัทรับจ้างผลิตเครื่องดื่มหลากหลายชนิด โดยสามารถผลิตได้ทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนประกอบ ชา กาแฟ น้ำผลไม้ต่างๆ ได้แทบทุกแบรนด์ที่ต้องการเทคโนโลยีการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการผลิตได้จำนวนมาก
สำหรับกำลังการผลิตในเฟสแรกมีประมาณ 4 หมื่นขวดต่อชั่วโมง ถือเป็นไลน์การผลิตที่เร็วที่สุดในประเทศไทย ด้วยระบบ Aseptic PET ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคนี้ ผสมผสานกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก โดยได้นำเทคโนโลยี Eco-System การผลิตใหม่ล่าสุดของโลกแบบ Cold Aseptic Filling ที่ใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อโรคและลดการใช้พลาสติกที่มีความหนาลง 50-60% แต่ยังคงสามารถบรรจุผลิตภัณฑ์ลงขวดในอุณหภูมิปกติ ทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารจากเครื่องดื่มได้ดีกว่าการผลิตแบบเดิม 5 เท่า โดยเครื่องจักรที่ใช้ผลิตภายในโรงงานส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส และสวีเดน ภายใต้การดูแลร่วมกันของบริษัท ซีเดล (Sidel) และบริษัท เต็ดตรา แพ็ค
“การลงทุนสมัยนี้ต้องคำนึงถึงลูกค้าและตลาดเป็นสำคัญ โดยบริษัทคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยการผลิตด้วยระบบนี้ถือเป็นระบบที่มีทั้งความทันสมัยโดยไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุกันเสียแต่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีวันหมดอายุที่ยาวนานขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องแช่เย็น ทั้งยังสามารถลดต้นทุนในการขนส่งอีกด้วย ทำให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าเดิมโดยใช้ระบบ Innovation ของเครื่องจักรเข้ามาช่วย”
