ตลาดหนังสือเล่มชะลอตัว เหตุรถคันแรกและค่าแรง 300 บาท “อมรินทร์ บุ๊ค” คาดโต 5% เดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมรุกเข้าถึงตัวผู้บริโภคผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย เผยหนังสือขายดียังคงเป็นนิยายรักที่นำมาผลิตเป็นละครโทรทัศน์ ตามด้วยหนังสือจิตวิทยาและฮาวทู ส่วนหนังสือธรรมะยอดตกเพราะเริ่มมีการแจกฟรีมากขึ้น
นายถนัด ไทยปิ่นณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหนังสือเล่ม หรือพ็อกเก็ตบุคประเทศไทยในช่วงนี้ถือว่าอยู่ในช่วงขาลงเช่นเดียวกับอีกหลายๆ ธุรกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงตามภาพรวมรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2555 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นตลาดค้าปลีกและโมเดิร์นเทรดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ประมาณ 2.8 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉพาะร้านนายอินทร์ประมาณ 1.6 พันล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2556 บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นเพียง 5%
แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทจะมียอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่จากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ทำให้จำนวนผู้บริโภคที่จับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้าลดน้อยลงในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ซึ่งถือได้ว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายหน้าร้านนายอินทร์ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับผลกระทบจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่ประสบผลสำเร็จโดยเฉพาะนโยบายรถยนต์คันแรก และค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เนื่องจากร้านนายอินทร์จำเป็นต้องใช้พนักงานเป็นจำนวนมาก
จากภาวะดังกล่าวจึงทำให้บริษัทจำเป็นต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมการตลาดในลักษณะต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด โดยใช้งบประมาณการตลาดประมาณ 7-8% ของรายได้ในการจัดโปรโมชั่นลดราคาหนังสือ ขณะเดียวกันยังใช้งบประมาณอีก 20-30% ในการจัดกิจกรรมโรดโชว์และออกบูธในงานเทศกาลหนังสือต่างๆ
ปัจจุบันธุรกิจหนังสือเล่มในต่างประเทศถือว่าอยู่ในช่วงขาลง แต่สำหรับประเทศไทยยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเนื่องจากมีช่องทางเข้าถึงผู้อ่านได้มากขึ้น เช่น การจัดเทศกาลหนังสือทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยหนังสือประเภทนิยายรักโรแมนติกโดยเฉพาะนิยายที่ถูกนำมาผลิตเป็นละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ จัดเป็นประเภทหนังสือที่ได้รับความนิยมจากผู้อ่านอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่หนังสือประเภทจิตวิทยาและฮาวทูก็ยังคงได้รับความนิยมมากขึ้น แต่หนังสือธรรมะกลับมีอัตราการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากในระยะหลังมีหนังสือแจกฟรีมากขึ้นทั้งในลักษณะของหนังสือเล่มและการดาวน์โหลดทางคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับหนังสือประเภทคอมพิวเตอร์และไอทีซึ่งเริ่มชะลอตัวลงเนื่องจากไม่มีคอนเทนท์ใหม่ๆ ที่หวือหวา หรือน่าสนใจมากนัก
“แม้ภาพรวมตลาดหนังสือเล่มจะอยู่ในช่องชะลอตัวแต่เราก็จำเป็นต้องเดินหน้ากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากการจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลด 5-10% และอื่นๆ แล้ว ยังเน้นใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นด้วย โดยล่าสุดได้ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทในการพัฒนาแอปฟลิเคชั่น naiinpann ให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดฟรี เพื่อทดลองอ่านหนังสือตัวอย่างกว่า 4 พันเล่มจากสำนักพิมพ์ในเครือและพันธมิตรกว่า 100 แห่ง”
ปัจจุบันร้านนายอินทร์มีสมาชิกประมาณ 4 แสนราย โดยล่าสุดเพิ่งจัดกิจกรรม “อ่าน ลุ้น โชค” ฉลอง 20 ปีร้านนายอินทร์ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจับรางวัลคูปองของลูกค้าที่ซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์ที่ร่วมรายการเป็นจำนวน 568 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท
บริษัทมีสำนักพิมพ์ในเครือ 14 แห่ง โดยแต่ละปีจะมีการออกหนังสือใหม่ประมาณ 500 เรื่อง ขณะเดียวกันยังรับจัดจำหน่ายให้สำนักพิมพ์พันธมิตรอีกกว่า 200 แห่งภายในร้านนายอินทร์ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 214 สาขาทั่วประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาขาภายในห้างสรรพสินค้าโดยใช้งบลงทุนประมาณ 2 ล้านบาทต่อสาขา เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมจับจ่ายใช้สอยภายในห้างสรรพสินค้ามากกว่าร้านสาขาประเภทสแตนด์ อโลน ซึ่งมีข้อจำกัดด้านสถานที่จอดรถ