“โอฬาร”เผยจีนขอไทยร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในนครฉงชิ่ง เสนอพื้นที่ให้ใช้ฟรี สามารถนำไปจัดนิทรรศการ แสดงสินค้า OTOP พร้อมลดค่าเช่าให้ธุรกิจแบรนด์ไทยที่สนใจไปลงทุน 50% ด้านฮ่องกงรุกเร่งเจรจา FTA อาเซียน-ฮ่องกงโดยเร็ว
นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า จีนได้เสนอให้นักลงทุนและผู้ประกอบการของไทยเข้าร่วมพัฒนาโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ River View Boutique ที่นครฉงชิ่ง มณฑลเสฉวย ซึ่งจะมีทั้งส่วนของโรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า สถานที่จัดนิทรรศการ มีพื้นที่ประมาณ 16,000 ตารางเมตร มีกำหนดการเปิดในเดือนต.ค.2557 และถือเป็นจุดที่อยู่ในทำเลที่ดีมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณปีละ 30-40 ล้านคน
โดยจีนได้แจ้งว่าการจัดทำโครงการดังกล่าวจะตกแต่งแบบไทยทั้งภายในและภายนอก เฉพาะตัวโรงแรมก็จะตกแต่งเป็นแบบไทยๆ (Thai Concept) และจะมอบพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ใช้โดยไม่คิดค่าเช่า ซึ่งจะสามารถใช้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่นจัดนิทรรศการ จัดแสดงสินค้า OTOP รวมทั้งยังเสนอให้ใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงาน เป็นเวลา 5 ปี ส่วนธุรกิจไทยทั้งสินค้าและบริการที่มีแบรนด์เนม ก็จะลดค่าเช่าให้ร้อยละ 50 และช่วยในการขออนุญาตประกอบการให้ด้วย
ทั้งนี้ ทางเจ้าของโครงการ ซึ่งก็คือ บริษัท Kerry Sun Enterprise Development (China) Co.,Ltd. ได้ขอให้ไทยช่วยประสานและเชิญชวนภาคธุรกิจที่มีสินค้าและบริการไทยในระดับพรีเมี่ยมและมีแบรนด์เนมเป็นของตนเองให้ไปเปิดธุรกิจ เช่น ภัตตาคารไทย และสปาไทย ซึ่งตนจะผลักดันให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนต่อไป เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพไปลงทุนในต่างประเทศ
“โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของนครฉงชิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ผมได้มอบให้นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ เป็นประธานคณะทำงานร่วมกับฝ่ายจีน โดยคณะทำงานจะประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนดำเนินการในรายละเอียดต่างๆ ต่อไป”นายโอฬารกล่าว
สำหรับบริษัท Kerry Sun Enterprise Development (China) Co.,Ltd. มีนายซ่งเจี่ย เป็นประธาน มีสำนักงานใหญ่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ การเงิน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและวัฒนธรรมในจีน ฮ่องกง และมาเก๊า
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้หารือกับ Carrie Lam ผู้บริหารระดับสูงของฮ่องกง โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเพิ่มความร่วมมือทางด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งฮ่องกงแจ้งว่ามีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในสาขาการเงิน โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว ธุรกิจบันเทิง และเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการหารือถึงการจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง ที่ไทยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานของอาเซียน โดยมีแผนที่จะเริ่มการเจรจาในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้ ฮ่องกงต้องการให้มีการเจรจาเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพราะทั้งอาเซียนและฮ่องกงมีประสบการณ์ในการเจรจา FTA อยู่แล้ว ซึ่งไทยก็เห็นด้วย