“แอมเวย์” งัดแผนสำรองรับมือไตรมาสสุดท้ายเศรษฐกิจซบหนัก เพิ่มเปอร์เซ็นต์รายได้นักธุรกิจ อัดโปรโมชันเพิ่มให้ลูกค้า ปรับลดเป้าหมายเติบโตเหลือ 4%
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกยังดีอยู่ แต่ช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากหลายหน่วยงานได้ประเมินว่าค่าจีดีพีคงต่ำกว่าเป้าหมาย รวมทั้งภาครัฐบาลเองก็มีการปรับลดการส่งออกอีกด้วย กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ลดลง
ดังนั้น ทางแอมเวย์เองจึงได้นำแผนสำรองมาใช้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีการนำมาใช้บางส่วนแล้ว เพื่อกระตุ้นตลาดรวมและผลักดันรายได้รวมให้ถึงเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ใหม่ที่ปรับลดลงมาเหลือ 3-4% หรือจากรายได้รวม 18,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโตที่ 7% ซึ่งแต่ละกลุ่มสินค้าก็มีความแตกต่างกันไป ตามสภาพเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มเครื่องสำอางซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 17% อาหารเสริมสัดส่วน 36% และเครื่องกรองน้ำกับเครื่องกรองอากาศ 19%
ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งการเพิ่มสิทธิพิเศษและผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจที่มีมากกว่า 330,000 ราย เช่นการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำอีก 6% การเพิ่มแรงจูงใจอินเซนทีฟไปต่างประเทศ การให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมกับนักธุรกิจใหม่ ส่วนนักธุรกิจแอมเวย์เดิมหากรักษายอดขายไว้ได้ก็มีสิทธิพิเศษเพิ่ม เป็นต้น ขณะที่ตลาดผู้บริโภคนั้นก็จะมีการทำโปรโมชันมากขึ้น เช่น สินค้าเครื่องกรองน้ำอีสปิรงเวลานี้ทำร่วมกับบัตรเครดิตต่อเนื่องด้วยการผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน เป็นต้น
ส่วนงบการตลาดในปีนี้ยังคงเป็นไปตามเดิม แต่ก็มีการปรับการจัดสรรการใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น สินค้าเครื่องกรองน้ำจะใช้ในส่วนของออนไลน์และเว๊บไซต์มากขึ้น แต่จะลดลงทางด้านสื่อโฆษณา
นางรัตนากล่าวต่อถึงแผนตลาดเครื่องกรองน้ำ อี-สปริง ว่าปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% จากปีที่แล้วที่ขายได้ 50,000 เครื่อง ซึ่งครึ่งปีแรกเติบโต 10% ตามเป้าหมายแล้ว หรือมียอดขายกลุ่มนี้ทั้งปีนี้ที่ 2,300 ล้านบาท จากที่แอมเวย์จำหน่ายอีสปริงในไทยมานานกว่า 18 ปี มียอดขายรวมแล้วที่ 600,000 เครื่อง ขณะที่ตลาดรวมเครื่องกรองน้ำมีประมาณ 3,900 ล้านบาท แต่เติบโตประมาณ 5-7% โดยแอมเวย์เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 60%
ตลาดรวมเครื่องกรองน้ำมีทิศทางเติบโตที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคเข้าใจและให้การยอมรับมากขึ้น ว่ามีผลดีต่อสุขภาพที่จะได้รับน้ำดื่มที่สอาดมากขึ้น อีกทั้งขนาดของเครื่องปัจจขุบันก็เล็กกว่าสมัยก่อน แต่ตลาดก็แข่งขันรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมาแอมเวย์มีจำหน่ายรวม 3 รุ่น ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายราคาประมาณ 30,841 บาท สำหรับสมาชิก ส่วนลูกค้าทั่วไปเพิ่มอีก 25% และยังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ๆ ต่อเนื่อง
บริษัทฯ ตั้งงบการตลาดอีสปริงในปีนี้ไว้ที่ 80 ล้านบาท วางแผนจัดรายการส่งเสริมทั้งการขายเครื่องใหม่ และการเปลี่ยนใส้กรอง ชูคุณภาพและเป็นเครื่องกรองน้ำระบบขายตรงที่มียอดขายสูงสุดในโลกประมาณ 590,000 เครื่องทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกยังดีอยู่ แต่ช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากหลายหน่วยงานได้ประเมินว่าค่าจีดีพีคงต่ำกว่าเป้าหมาย รวมทั้งภาครัฐบาลเองก็มีการปรับลดการส่งออกอีกด้วย กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ลดลง
ดังนั้น ทางแอมเวย์เองจึงได้นำแผนสำรองมาใช้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีการนำมาใช้บางส่วนแล้ว เพื่อกระตุ้นตลาดรวมและผลักดันรายได้รวมให้ถึงเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ใหม่ที่ปรับลดลงมาเหลือ 3-4% หรือจากรายได้รวม 18,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโตที่ 7% ซึ่งแต่ละกลุ่มสินค้าก็มีความแตกต่างกันไป ตามสภาพเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มเครื่องสำอางซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 17% อาหารเสริมสัดส่วน 36% และเครื่องกรองน้ำกับเครื่องกรองอากาศ 19%
ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งการเพิ่มสิทธิพิเศษและผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจที่มีมากกว่า 330,000 ราย เช่นการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำอีก 6% การเพิ่มแรงจูงใจอินเซนทีฟไปต่างประเทศ การให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมกับนักธุรกิจใหม่ ส่วนนักธุรกิจแอมเวย์เดิมหากรักษายอดขายไว้ได้ก็มีสิทธิพิเศษเพิ่ม เป็นต้น ขณะที่ตลาดผู้บริโภคนั้นก็จะมีการทำโปรโมชันมากขึ้น เช่น สินค้าเครื่องกรองน้ำอีสปิรงเวลานี้ทำร่วมกับบัตรเครดิตต่อเนื่องด้วยการผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน เป็นต้น
ส่วนงบการตลาดในปีนี้ยังคงเป็นไปตามเดิม แต่ก็มีการปรับการจัดสรรการใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น สินค้าเครื่องกรองน้ำจะใช้ในส่วนของออนไลน์และเว๊บไซต์มากขึ้น แต่จะลดลงทางด้านสื่อโฆษณา
นางรัตนากล่าวต่อถึงแผนตลาดเครื่องกรองน้ำ อี-สปริง ว่าปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% จากปีที่แล้วที่ขายได้ 50,000 เครื่อง ซึ่งครึ่งปีแรกเติบโต 10% ตามเป้าหมายแล้ว หรือมียอดขายกลุ่มนี้ทั้งปีนี้ที่ 2,300 ล้านบาท จากที่แอมเวย์จำหน่ายอีสปริงในไทยมานานกว่า 18 ปี มียอดขายรวมแล้วที่ 600,000 เครื่อง ขณะที่ตลาดรวมเครื่องกรองน้ำมีประมาณ 3,900 ล้านบาท แต่เติบโตประมาณ 5-7% โดยแอมเวย์เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 60%
ตลาดรวมเครื่องกรองน้ำมีทิศทางเติบโตที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคเข้าใจและให้การยอมรับมากขึ้น ว่ามีผลดีต่อสุขภาพที่จะได้รับน้ำดื่มที่สอาดมากขึ้น อีกทั้งขนาดของเครื่องปัจจขุบันก็เล็กกว่าสมัยก่อน แต่ตลาดก็แข่งขันรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมาแอมเวย์มีจำหน่ายรวม 3 รุ่น ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายราคาประมาณ 30,841 บาท สำหรับสมาชิก ส่วนลูกค้าทั่วไปเพิ่มอีก 25% และยังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ๆ ต่อเนื่อง
บริษัทฯ ตั้งงบการตลาดอีสปริงในปีนี้ไว้ที่ 80 ล้านบาท วางแผนจัดรายการส่งเสริมทั้งการขายเครื่องใหม่ และการเปลี่ยนใส้กรอง ชูคุณภาพและเป็นเครื่องกรองน้ำระบบขายตรงที่มียอดขายสูงสุดในโลกประมาณ 590,000 เครื่องทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
