DRT สบช่องตลาดต่างประเทศบูม เร่งเครื่องลุยเต็มพิกัด รุกทำตลาดในลาว และกัมพูชา พร้อมเสริมทัพการตลาด รุกให้คำแนะนำการใช้สินค้า และการติดตั้งหวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม มั่นใจดันยอดขายเติบโต 2 หลัก ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายตลาดต่างประเทศเป็น 13-14% และอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานที่กัมพูชา และพม่า รองรับการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้น หลังเปิด AEC
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ ไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ กล่าวถึงแนวโน้มส่งออกผลิตภัณฑ์ตราเพชรในปีนี้ว่า มีสัญญาณเติบโตที่ดี หลังจากประเทศต่างๆ ในแถบอาเซียนต่างก็เร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในแต่ละประเทศด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดส่งออกหลักอย่างประเทศกัมพูชา และลาว ที่ทำสัดส่วนการขายได้ 60-70% ของยอดส่งออกทั้งหมด โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในการใช้กลยุทธ์โลคัลมาร์เกตติ้ง ด้วยรูปแบบการจัดทำสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ และวิทยุ พร้อมกับเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมด้านการกีฬา และความบันเทิงประจำท้องถิ่น เพื่อสร้างการรับรู้ และจดจำแบรนด์สินค้าตราเพชร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดส่งทีมโครงการเข้าไปช่วยแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ให้แก่ทีมช่างและกลุ่มสถาปนิก ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าไปใช้ในงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้น
“เราเน้นใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ในการสร้างการรับรู้ผ่านสื่อทีวีท้องถิ่น และวิทยุมากขึ้น เพื่อช่วยขยายตลาด และฐานลูกค้า โดยเราเตรียมซื้อสื่อโฆษณาผ่านทีวีดาวเทียมในประเทศลาว เพื่อสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคาตราเพชร และเพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าทางตอนใต้ของประเทศลาวเพิ่มเติม นอกจากนี้ เรามีแผนเพิ่มทีมการตลาดเข้าไปช่วยรุกตลาดในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอีกด้วย” นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมออกบูทในงานสถาปนิกของแต่ละประเทศอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากบริษัทฯ มองว่า เป็นช่องทางการสร้างตราสินค้าให้แข็งแกร่ง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าในด้านมาตรฐานสินค้า อีกทั้งยังเป็นช่องทางช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าตราเพชรในต่างประเทศให้เพิ่มขึ้นในอีกทางหนึ่งด้วย
“บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพการสร้างยอดขายตราเพชรจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในพม่า และกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโต เพื่อรองรับกับโอกาสทางการค้า และการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หลังจากประเทศต่างๆ ในอาเซียนจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากปีนี้เราทำยอดขายจากตลาดต่างประเทศเติบโตได้มากกว่า 10% และคาดว่าจะทำให้สัดส่วนการขายจากตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 13-14% จากยอดขายทั้งหมด จากเดิมที่มีเพียง 10% เท่านั้น”นายสาธิต กล่าว