“อีฟ ฟรุตตามิน” รุกเซกเมนต์ใหม่หวังขึ้นเบอร์หนึ่งน้ำผลไม้พรีเมียม เปิดตลาด “ฟรุตตามิน” เทงบฯ 100 ล้านบาทกระตุ้นยอดขาย 300 ล้านบาท พร้อมชิงทำตลาด 10 ประเทศเออีซีหวังแย่งส่วนแบ่งตลาดรวม 4 แสนล้านบาท
นายพงศกร พงษ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดริ้งค์โคโลจีสต์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำผลไม้รายใหม่ “อีฟ ฟรุตตามิน” (if Fruitamin) เปิดเผยว่า จากกระแสความตื่นตัวเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ทำให้บริษัทฯ เห็นช่องว่างในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ระดับพรีเมียม พร้อมเพิ่มวิตามินและใช้เนื้อผลไม้เป็นส่วนประกอบโดยไม่ใช้วัตถุกันเสีย
ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้มีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 7.6% และคาดว่าจะเป็น 8% ในปี 2557 การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้จึงเท่ากับเป็นการสร้างเซกเมนต์ใหม่ของเครื่องดื่มน้ำผลไม้ คือ “ฟรุตตามิน” โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 300 ล้านบาทภายในปี 2556 และจะเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาทในปี 2557 ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 25% เป็นผู้นำตลาดในส่วนของฟรุตตามิน
บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตลาดอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ผ่านตัวแทนจำหน่ายแต่ละประเทศตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 เพราะตลาดรวมมีมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท แต่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดน้ำผลไม้ฟรุตตามินมาก่อน โดยช่วงแรกกำหนดสัดส่วนส่งออก 20% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือประมาณ 400 ล้านบาทก่อน
“การแข่งขันของตลาดน้ำผลไม้ถือว่ารุนแรงมาก เราจึงพยายามศึกษาช่องว่างต่างๆ เพื่อเป็นกลยุทธ์การทำตลาดคือการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตทั้งบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด จนทำให้สามารถตอบโจทย์และความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากยอดขายตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ใดๆ”
บริษัทฯ จัดงบประมาณ 100 ล้านบาท ศึกษาวิจัยและพัฒนาสินค้า รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ นักศึกษา และกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ โดยมี “เจมส์ มาร์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก กำหนดสัดส่วนงบประมาณการตลาดผ่านสื่อโฆษณาหลัก 60% และสื่อต่างๆ เช่น ดิจิตอล โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ 40% โดยมีแผนที่จะใช้ไวรัล มาร์เกตติ้ง เพื่อสร้างการเข้าถึงและกระตุ้นการรับรู้เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายให้จดจำแบรนด์ในวงกว้างขึ้น
เบื้องต้นบริษัทฯ มีกำลังการผลิตเดือนละ 3.5 ล้านขวด โดยคาดว่าจะสามารถกระจายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทางการจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรด และร้านค้าทั่วไป ภายในเดือน ก.ย.ศกนี้