“พาณิชย์”คุมเข้ม ตรวจรถเข้ากระทรวงฯ หลังมีข่าวขู่บึ้ม ด้านกรมการค้าภายในเรียกประชุมรับม็อบบุก

“พาณิชย์”ตื่นขู่วางบึ้ม สั่งรปภ. ตรวจรถที่เดินทางเข้ากระทรวง แต่ยังไม่พบความผิดปกติ ด้านกรมการค้าภายในเรียกประชุมรับมือม็อบบุก “วิบูลย์ลักษณ์”ยันพร้อมชี้แจง เตรียมนัดผู้ค้าก๊าซ มาตรา 7 หารือ ป้องกันมั่วนิ่มบวกค่าขนส่ง จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า บรรยากาศที่กระทรวงพาณิชย์ วันที่ 10 ก.ย. ได้มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเพิ่มมากขึ้น โดยพนักงานรักษาความปลอดภัยจะทำการตรวจสอบรถทุกคันที่เดินทางเข้ามาภายในกระทรวงพาณิชย์ เพื่อตรวจวัตถุระเบิดใต้ท้องรถ หลังจากที่มีข่าวขู่วางระเบิด เพราะไม่พอใจการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของกระทรวงพาณิชย์

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า กรมการค้าภายในได้เรียกผู้ประชุมผู้บริหารระดับสูงของกรมฯ เป็นการด่วน เพื่อเตรียมรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม ได้แก่ กลุ่มคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่จะเดินทางมาชุมนุมกระทรวงพาณิชย์ในวัน 11 ก.ย.นี้ โดยอ้างว่ากระทรวงพาณิชย์แก้ไขปัญหาค่าครองชีพล้มเหลว

ด้านน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ถ้าพร้อมรับฟัง ก็พร้อมที่จะชี้แจงให้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าสินค้าไม่ได้ปรับขึ้นราคาจากการปรับขึ้นก๊าซหุงต้มแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นเรื่องค่าครองชีพสูงขึ้น ยืนยันว่า สินค้ามีทั้งปรับขึ้นและลดลง โดยเฉพาะเรื่องอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) ขณะนี้ต้นทุนในการผลิตหลายๆ รายการได้ปรับลดลง เช่น เนื้อหมู ไก่สด และน้ำมันพืช ส่วนไข่ไก่แพงขึ้น เพราะผลผลิตลดเหลือ 34 ล้านฟอง/วัน น้อยกว่าปริมาณการบริโภคที่มีประมาณ 36 ล้านฟอง/วัน ซึ่งจะมีการเข้าไปตรวจสอบว่า จำนวนไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดผิดปกติหรือไม่ โดยจะตรวจสต๊อกไข่ไก่ของผู้ผลิต ผู้ค้าส่งทั่วประเทศ

โดยการแก้ไขปัญหาไข่แพง กรมฯ จะไม่เข้าไปควบคุมราคา แต่จะดูแลให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยต้นทุนไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.88 บาท/ฟอง แต่ปัจจุบันราคาขยับไปที่ 3.50 บาท/ฟอง มีกำไรเกิน 15% ซึ่งจะเสนอปัญหาให้คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) มีมาตรการดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาขยับสูงไปกว่านี้

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า สำหรับการดูแลราคาก๊าซหุงต้ม หลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาเดือนละ 50 สตางค์/กก. กรมฯ จะเชิญผู้ค้าก๊าซหุงต้มตามมาตรา 7 มาหารือ เพื่อขอให้โรงบรรจุและร้านค้าก๊าซหุงต้มติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และต้องแยกให้ชัดระหว่างค่าเนื้อก๊าซและค่าบริการขนส่ง เพราะปัจจุบัน มีการแอบปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง โดยอ้างน้ำมันแพง ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าก๊าซหุงต้มมีการปรับขึ้นราคาเกินไปกว่าที่รัฐบาลอนุมัติ