สั่งทำแผนเร่งด่วนแก้คอขวดทางเข้านิคมฯ และท่าเรือแหลมฉบัง

“ชัชชาติ” สั่งทำแผนแก้จราจรแออัดทางเข้านิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือแหลมฉบังเร่งด่วน เน้นจุดคอขวด เผยขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์สาย 7 และถนนสายหลักอยู่ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้าน แต่อาจล่าช้าต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ชี้รถติดหนักเหตุโรงงานหนีน้ำท่วมจากอยุธยามาทำให้ปริมาณรถบรรทุกเพิ่มขึ้น ชี้รถติดกระทบภาคอุตฯ และท่องเที่ยว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยองเพื่อตรวจปัญหาการคมนาคมขนส่ง พร้อมทั้งหารือและรับฟังปัญหาจากทางจังหวัดเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา พบว่าในจังหวัดชลบุรีและระยองมีปัญหาการจราจรแออัดมาก จึงได้มอบหมายให้นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) หารือกับผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อวางแผนและจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหาเส้นทางที่แออัดและจุดที่เป็นคอขวดก่อน ส่วนการขยายถนนสายหลัก เช่น มอเตอร์เวย์สาย 7 และทางหลวงหมายเลข 331 รวมถึงการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-รอยองนั้น อยู่ในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกมีวงเงินลงทุนรวม 132,423 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ จังหวัดชลบุรี และระยองถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญและเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยชลบุรีมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) 522,511 ล้านล้านบาท ส่วนระยองมี GPP ที่ 1,285,695 ล้านล้านบาท ถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) มี GPP 485,000 ล้านล้านบาทเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาละเลยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นและสนับสนุนการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ดังนั้นในแผนลงทุน 2 ล้านล้านบาทจึงให้ความสำคัญต่อชลบุรี และระยองเป็นอันดับต้นๆ

“ตอนนี้สภาพถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ที่เลี้ยวเข้าท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) แออัดมีสภาพเป็นคอขวด จำเป็นต้องเร่งขยายไปจนถึงแหลมฉบัง ส่วนหมายเลข 331 สายพนมสารคาม-สัตหีบ ปัจจุบันเป็น 4 เลน มีปริมาณจราจรสูง และมีสี่แยกมากแต่เป็นเส้นทางสำคัญรองรับการเดินทางเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีปัญหาการจราจรหนาแน่นมากในช่วงเช้าเพราะจะมีรถเข้ามายังนิคมฯ เป็นแสนคัน ทั้งรถบัส รถส่วนตัว และรถบรรทุกสินค้า รถเทรลเลอร์ คนทำงานในนิคมฯ จะเดินทางมาจากศรีราชา บางแสน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงต้องเร่งแก้ปัญหาคอขวดขยายเป็นจุดๆ ใช้งบซ่อมบำรุงเป็นรายปีไปก่อน เพราะตอนนี้โรงงานอุตสาหกรรมที่หนีน้ำท่วมจากอยุธยามาชลบุรีมากขึ้น ส่งผลให้รถสินค้ามีจำนวนมากขึ้นด้วย” นายชัชชาติกล่าว

สำหรับแผนลงทุนใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทในพื้นที่ภาคตะวันนออกมีวงเงินรวม 132,423 ล้านบาท ประกอบด้วย การลงทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงิน 102,746 ล้านบาท เช่น โครงการปรับปรุงทาง ราง ไม้หมอน สะพาน และติดตั้งรั้ว โครงการติดตั้งเครื่องกั้นถนนเสมอระดับ โครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสี โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อจากสนามบินสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา-ระยอง การลงทุนทางถนนวงเงินรวม 29,677 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของกรมทางหลวง (ทล.) วงเงิน 19,654 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท (ทช.) 8,985 ล้านบาท กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) 1,038 ล้านบาท