“ยิ่งลักษณ์”สั่งพาณิชย์รายงานปัญหาและอุปสรรคส่งออก พร้อมแนวทางแก้ไขวันนี้ เพื่อหาทางกู้วิกฤต หลัง 7 เดือนยอดโตต่ำกว่าเป้า ด้าน “นิวัฒน์ธำรง” นัดเวิร์กชอปสัปดาห์หน้า ทำแผนฟื้นฟูส่งออกร่วมกับภาคเอกชนอีกทาง
นางอัมพวัน พิชาลัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ก.ย.) กรมฯ จะนำข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การส่งออกสินค้าไทยชะลอตัวลง รวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา ที่ได้หารือกับผู้ส่งออก รายงานต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อหาแนวทางฟื้นฟูการส่งออกให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย หรือใกล้เคียงเป้าหมายมากที่สุด หลังจากมูลค่าการส่งออกในช่วง 7 เดือนของปี 2556 (ม.ค.-ก.ค.) ขยายตัวเพียง 0.60% คิดเป็นมูลค่า 132,368.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายขยายตัวของปีนี้ไว้ที่ 7-7.5% หรือมีมูลค่า 245,000-246,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
”กรมฯ ได้เชิญผู้ส่งออกในสินค้าสำคัญๆ มาหารือ เพื่อสอบถามปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาแล้ว และกำลังรวบรวมข้อมูลไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อให้รับทราบสถานการณ์ และหาแนวทางแก้ไขต่อไป ซึ่งกำลังดูว่า แต่ละสินค้ามีปัญหาตรงไหน ตลาดใดชะลอตัว ก็จะแก้ปัญหาเป็นจุดๆ ไป ถ้ามีปัญหาที่ตลาด ก็อาจหันไปบุกตลาดอื่นทดแทน ถ้ามีปัญหามีตัวสินค้า เช่น สินค้าเกษตรราคาตก จะหันไปผลิตสินค้าแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มทดแทน หรือจะมีมาตรการเสริมอื่นๆ เพื่อผลักดันการส่งออกให้มากขึ้น”นางอัมพวันกล่าว
ทั้งนี้ ในการเร่งรัดผลักดันการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ กรมฯ จะเน้นการผลักดันสินค้าที่ยังมีโอกาส และมีศักยภาพในการทำตลาดได้ดี เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายมากที่สุด ไม่ใช่จะผลักดันในทุกสินค้า โดยสินค้าที่จะเร่งรัดผลักดัน ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มมากๆ และเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ของไทย ทั้งยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ อาหาร เป็นต้น และจะเน้นการหาตลาดใหม่ และการขยายตลาดเป็นสำคัญ
พร้อมกันนี้ ในสัปดาห์หน้า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กชอป) ร่วมกับผู้ส่งออกในกลุ่มสินค้าสำคัญ ทั้งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะในการแก้ไขอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เห็นภาพในการแก้ปัญหาชัดเจน และมีแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น