xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ส่งคนตรวจร้านค้าก๊าซหุงต้มรับมือก่อนขึ้นราคา 1 ก.ย. หวั่นโกงน้ำหนัก-ขายเกินราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบร้านค้าก๊าซหุงต้มรับมือขึ้นราคา 1 ก.ย.นี้ หวั่นโกงน้ำหนัก ขายเกินราคา ยันกระทบราคาจานด่วนเล็กน้อย

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ออกตรวจสอบร้านค้าจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และโรงบรรจุก๊าซหุงต้มว่ามีการบรรจุก๊าซหุงต้มตรงตามน้ำหนักหรือไม่ และขอความร่วมมือให้ติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายก๊าซหุงต้มให้ชัดเจน ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่กระทรวงพลังงานจะให้มีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม 50 สตางค์/กก. ในวันที่ 1 ก.ย.นี้

“การตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบประชาชน ทั้งในเรื่องของการโกงน้ำหนัก และปรับขึ้นราคาเกินต้นทุนที่กำหนด ซึ่งหากพบว่าร้านค้าใดมีพฤติกรรมเอาเปรียบจะลงโทษตามกฎหมาย คือจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว

ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) เพราะกระทบเพียงจานละ 2-3 สตางค์เท่านั้น โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการมิตรธงฟ้ากับกรมฯ ได้ยืนยันจะยังคงตรึงราคาอาหารจานด่วนตามราคาแนะนำที่กำหนด 25-30 บาท ขณะเดียวกัน กรมฯ ยังได้ขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาอาหารจานด่วนบางเมนูลดลงด้วยอีกจานละ 5-10 บาท ส่วนร้านค้ารายย่อย หรือหาบเร่แผงลอยต้องการให้แจ้งรายชื่อเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อรวบรวมรายชื่อนำไปให้กระทรวงพลังงานช่วยเหลือผลกระทบจากการปรับขึ้นก๊าซหุงต้มต่อไป

สำหรับการตรวจราคาอาหารจานด่วนในตลาดทั่วประเทศที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นั้น เชื่อว่าราคาไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง เพราะต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตอาหารจานด่วนปรับตัวลดลง เช่น ผักสด รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์ที่เริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาลดลง ทำให้ต้นทุนอาหารสัตว์ถูกลง ส่วนราคาไข่ไก่ที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก 10 สตางค์ยังไม่น่ากังวล เพราะราคาขายปลีกยังไม่ชนราคาเพดานที่กรมฯ จะดูแล คือไข่ไก่เบอร์ 3 ทะลุ 4 บาท/ฟองขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น