คนใช้น้ำมันโล่ง! กบง.หั่นรายได้กองทุนฯ เบรกราคาขึ้นทั้งกลุ่มเบนซิน-ดีเซล

“พงษ์ศักดิ์” สั่งเบรกราคาน้ำมันขายปลีกทั้งเบนซินและดีเซลปรับขึ้น ยอมลดรายได้รีดเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 21.99 ล้านบาทต่อวัน หลังน้ำมันโลกขึ้น แถมเจอบาทอ่อนหวังดูแลค่าครองชีพประชาชนโดยเฉพาะคนใช้กลุ่มเบนซินและโซฮอล์ ยอมรับสิ้นปีกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ
 

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กบง.ได้มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลเพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่ประชาชนผู้ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะคนใช้กลุ่มเบนซิน โดยเบนซิน 95 ลดลง 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนแก๊สโซฮอล์ลดและชดเชยเพิ่ม 0.50 บาทต่อลิตร ดีเซลลดลง 0.20 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผลดังกล่าวทำให้การจัดเงินส่งกองทุนน้ำมันฯ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 จากเดิมเก็บเข้า 10 บาทต่อลิตร ลดจัดเก็บ 0.30 บาทต่อลิตรเหลือ 9.70 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 เดิมเก็บเข้ากองทุน 3.50 บาทต่อลิตร ลด 0.50 บาทต่อลิตรเป็นเก็บ 3 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เดิมเก็บเข้ากองทุน 1.40 บาทต่อลิตร ลด 0.50 บาทต่อลิตรเป็น 0.90 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี 20 เดิมชดเชย 1.30 บาทต่อลิตรเพิ่มเป็น 0.50 บาทต่อลิตรเป็น 1.80 บาทต่อลิตร อี 85 เดิมชดเชย 11.40 บาทต่อลิตรเพิ่มเป็น 0.50 บาทต่อลิตรเป็นชดเชยเพิ่ม 11.90 บาทต่อลิตร ดีเซลจากเดิมเก็บ 0.90 บาทต่อลิตรลดลง 0.20 บาทต่อลิตรเหลือ 0.70 บาทต่อลิตร

ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันครั้งนี้ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลงวันละ 21.99 ล้านบาท จากเดิมวันละ 28.46 ล้านบาทเหลือ 6.48 ล้านบาท โดยล่าสุดกองทุนมีสถานะเป็นบวกที่ 7,032 ล้านบาท

“ยอมรับว่าเป็นห่วงราคาน้ำมันตลาดโลกที่ผันผวน และปกติแล้วราคาปลายปีจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น แนวโน้มจากเดิมที่คาดว่ากองทุนจะเป็นบวกแล้วลดราคาเบนซินให้ประชนได้ก็อาจจะกลายเป็นกองทุนติดลบ ซึ่งจะพยายามบริหารไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้เหมือนเจอ 2 เด้ง นอกจากน้ำมันโลกแพงแล้วเรายังเจอบาทอ่อนทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น” รมว.พลังงานกล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการจัดเก็บเงินกองทุนสำหรับแอลพีจีภาคครัวเรือน 50 สต./กก.ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งส่งผลให้ราคาแอลพีจีขยับขึ้นจาก 18.13 บาทเป็น 18.63 บาท/กก. และที่ประชุมยังเห็นชอบโครงสร้างราคาเอ็นจีวีพรีเมียม หรือเอ็นจีวีตามแนวท่อ โดยให้ค่าบริหารแก่ ปตท. 13.62 สต./กก. จากที่ ปตท.เสนอมา 17 สต. /กก. และเห็นชอบให้ ปตท.คืนเงิน 90.8 ล้านบาท ในกรณีค่าเสียเวลาเรือนำเข้าแอลพีจีเกินคาดการณ์