“พงษ์ศักดิ์” ลั่นเดินหน้าขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน 1 ก.ย.จะช่วยทำให้กองทุนน้ำมันฯ ที่เก็บจากคนใช้รถลดภาระและมีมาตรการดูแลคนมีรายได้น้อยอยู่แล้ว ระบุหากม็อบมาเจรจาด้วยเหตุผลก็พร้อมจะรับฟังแต่ยืนยันว่ารัฐได้ชี้แจงเป็น 500 ครั้งแต่ก็ไม่ฟัง ลั่นคนต้านขึ้นแอลพีจีเท่ากับอุ้มคนรวยช่วยหัวขโมยลักลอบขายแอลพีจีข้ามกลุ่มและประเทศเพื่อนบ้าน
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีเครือเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงาน ได้เดินทางมาต่อต้านการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ แอลพีจี ภาคครัวเรือนวันที่ 1 ก.ย.นี้ว่า ขณะนี้ยังยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาแอลพีจีเป็นไปตามนโยบายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาฝ่ายราชการเองได้มีการชี้แจงต่อทุกฝ่ายไปแล้วหลายครั้ง บางครั้งแทบจะไม่ยอมรับฟังการชี้แจงใดๆ
ทั้งนี้ เหตุผลที่รัฐปรับขึ้นเพราะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บจากผู้ใช้น้ำมันเป็นผู้จ่ายเงินอุดหนุนราคาแอลพีจีให้ต่ำกว่าต้นทุนมาตลอดนับตั้งแต่กว่า 5 ปีจ่ายไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท การขยับราคาแอลพีจีเป็นการลดภาระให้แก่ผู้ที่ใช้น้ำมันที่ไม่ใช่คนรวยทั้งหมดเพราะผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์ รถรับจ้างต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นคนจน และรัฐเองก็ยังมีมาตรการดูแลครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำร้านค้าหาบเร่แผงลอย 7.7 ล้านรายให้ใช้สิทธิ์ราคาเดิม
“ผู้ใช้แอลพีจี 18 ล้านครัวเรือนเรายังช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อยจริงๆ 7.6 ล้านครัวเรือนที่เหลือที่ปรับขึ้นเป็นคนรวยผมคิดว่าไม่ได้กระทบอะไรมากเลย และตรงกันข้ามเวลานี้แอลพีจีครัวเรือนต่างจากขนส่งมากก็ทำให้เกิดการลักลอบใช้ข้ามประเภททำให้กองทุนฯ ต้องจ่ายเพิ่ม และยังมีอีกส่วนลักลอบไปขายเพื่อนบ้านเพราะราคาของไทยต่ำมาก เป็นการลดฉ้อโกง การที่ท่านมาประท้วงก็เท่ากับช่วยคนรวยและยังช่วยโจรหรือหัวขโมยอีกด้วย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ม็อบระบุว่าจะกลับมาใหม่หากรัฐไม่ทบทวนการขึ้นราคานั้นก็เป็นสิทธิของเขา และหากมีความรุนแรงก็เป็นหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาดูแล ส่วนหากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่เห็นด้วย และคณะรัฐมนตรีสั่งมาว่าให้หยุดขึ้นราคาก็ได้ แต่ก็ต้องย้อนถามว่าแล้วคนที่ใช้น้ำมันฯ จะต้องจ่ายไปเช่นนี้ตลอดไปท่านจะยอมหรือไม่