พลังงานถอยขึ้นแอลพีจี ก.ค.นี้หลังรัฐบาลระส่ำหนัก กบง. 28 มิ.ย.นี้ “เพ้ง” เคาะเลื่อนอีกรอบ ขีดเส้นให้เลื่อนเป็นครั้งสุดท้ายต้องกำหนดวันขึ้นเลย เผยเหตุต้องเลื่อนเพราะแนวปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยยังไม่เคลียร์ ด้านร้านค้าโทร.กระหน่ำสอบถามวิธีปฏิบัติเพื่อชดเชยราคาให้แก่ผู้มีสิทธิ์
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 26 มิ.ย.ว่า การประชุม กบง.วันที่ 28 มิ.ย.นี้จะมีการพิจารณาเลื่อนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ตรึงราคาไว้ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ออกไปอีก จากที่จะสิ้นสุดการตรึงราคา 30 มิ.ย.นี้ ส่วนจะตรึงราคาออกไปนานเพียงใดจะต้องรอผลการชี้แจงความพร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยว่าพร้อมเพียงใด
“เราคงต้องเลื่อนปรับขึ้นราคาแอลพีจีออกไปก่อนเพราะแนวทางปฏิบัติยังไม่ชัดเจน จะต้องซ้อมแผนก่อนปฏิบัติจริงให้รอบคอบ ซึ่งที่ประชุมจะต้องกำหนดวันขึ้นให้ชัดเจนเลยว่าจะขึ้นเมื่อใด จะไม่ให้เลื่อนอีกแล้ว” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้ต่ำเมื่อต้องปรับขึ้นราคาแอลพีจี คือครัวเรือนที่ไม่มีไฟใช้ และที่ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วย/เดือนจะได้สิทธิ์ช่วยเหลือไตรมาสละ 1 ถัง (ไม่เกิน 15 กก.) ร้านค้าหาบเร่ แผงลอยช่วยเหลือตามจำนวนใช้จริงแต่เดือนละไม่เกิน 10 ถัง (15 กก.) โดยผู้ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วย/เดือนได้แจ้งผ่านบิลค่าไฟแล้ว ส่วนร้านค้า หาบเร่จะมีการ์ดแจกให้เพื่อใช้แสดงสิทธิ์เพื่อรับส่วนลด ซึ่งการตรวจสอบจะทำผ่านบริการส่งข้อความสั้น (SMS) ที่จะมีการชี้แจงประชาชนอีกครั้ง
“ขั้นตอนทั้งหมดยอมรับว่ายังมีรายละเอียดอีกพอสมควรที่จะต้องชี้แจงให้ผู้ค้า ร้านค้า และประชาชนให้ทราบถึงวิธีปฏิบัติ ดังนั้นคงขึ้นไม่ทัน ประกอบกับช่วงนี้รัฐบาลเองก็มีปัญหาเรื่องข้าวและสารพัดอยู่ การเลื่อนออกไปอีกเล็กน้อยคงจะดีกว่า” แหล่งข่าวกล่าว
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี กล่าวว่า ขณะนี้ร้านค้าจำหน่ายแอลพีจีได้โทร.มาสอบถามถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อรับการชดเชยราคาแอลพีจีหากมีการปรับราคาแล้วค่อนข้างมาก โดยได้ชี้แจงว่าจะต้องรอคู่มือปฏิบัติจากกระทรวงพลังงานก่อนซึ่งคาดว่าจะส่งมาให้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากรัฐบาลจะขึ้นแอลพีจี ก.ค.นี้เลยทางร้านค้าก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ยอมรับว่าถ้าเลื่อนไปอีก 15-30 วันได้เพื่อให้ขั้นตอนปฏิบัติรับทราบก็จะเป็นอะไรที่ดีกว่า
“การเตรียมแนวทางปฏิบัติมีเวลาค่อนข้างจำกัด ซึ่งล่าสุดผู้ค้ามาตรา 7 ยังไม่มีการประสานงานถึงแนวทางการสำรองแอลพีจีให้กับร้านค้าว่าจะเป็นรูปแบบใด เบื้องต้นที่หารือกันคงจะประเมินคร่าวๆ ว่าแต่ละร้านจะต้องมีแอลพีจีถัง 15 กก.ให้ไว้แต่ละแห่งกี่ถัง เพราะเมื่อปรับราคาขึ้นแล้วจะมีอีกส่วนที่ไม่ได้ขึ้นราคาให้ผู้ที่ได้สิทธิ์ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ร้านค้าไม่ต้องแบกภาระต้นทุน แต่ผู้ค้ามาตรา 7 จะเป็นผู้รับภาระไปก่อน” นายชิษณุพงศ์กล่าว
