โอละพ่อ! “ปู” สั่งตรึงค่าไฟไม่อยู่ งวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) เรกูเลเตอร์ส่งสัญญาณขึ้น 6-7 สตางค์ต่อหน่วยเหตุค่าบาทอ่อนตัวแรงยอมรับตรึงไม่ได้แต่อัตรานี้ได้ช่วยเหลือแล้วไม่เช่นนั้นพุ่งนับ 10 สตางค์ต่อหน่วย ขณะเดียวกันรัฐบาลยังเดินหน้าขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือน 1 ก.ย.นี้อีก 50 สตางค์ต่อ กก. ทำใจประชาชนรับค่าครองชีพพุ่ง
นายดิเรก ลาวัลย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์เปิดเผยว่าเดิมค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft รอบ ก.ย.-ธ.ค. 56 นี้คาดว่าจะสามารถตรึงราคาได้แต่เนื่องจากล่าสุดค่าเงินบาทมีทิศทางที่อ่อนค่าลงจากเดิมการคำนวณงวดที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงเฉลี่ยอยู่ที่ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ประกอบกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นจึงทำให้ค่า Ft งวดนี้ต้องปรับขึ้นกว่า 10 สตางค์ต่อหน่วยแต่เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชนคาดว่าจะประกาศขึ้นประมาณ 6-7 สตางค์ต่อหน่วย
“เราก็กำลังพิจารณานำเงินจากการไฟฟ้าที่ไม่ได้ลงทุนตามแผน หรือคอลแบ็กที่ยังเหลืออยู่ราว 2,000 ล้านบาทมาช่วยเหลือจึงทำให้ค่า Ft งวดใหม่นี้จะเรียกเก็บประมาณ 6-7 สตางค์ต่อหน่วย โดยหากค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าแนวโน้มก็ยอมรับว่าจะมีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าค่อนข้างมาก” นายดิเรกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งได้มีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับค่าครองชีพเมื่อ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ออกมาระบุมาตรการช่วยเหลือและหนึ่งในมาตรการสำคัญ คือ การตรึงค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค.นี้ แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถสั่งให้เรกูเลเตอร์เบรกการขึ้นราคาได้ ขณะเดียวกัน วันที่ 1 ก.ย.นี้รัฐบาลยังคงเดินหน้าปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนจาก 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ไปสู่ระดับ 24.82 บาทต่อ กก.โดยจะทยอยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อ กก.นำรอ่งเดือนแรก ก.ย.นี้ไปจนถึง ส.ค. 57
อย่างไรก็ตาม แม้กระทรวงพลังงานจะมี่มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนที่เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และร้านค้าหาบเร่แผงลอยอาหารราว 7.7 ล้านราย แต่ก็มีประชาชนอีกกว่าครึ่งหนึ่งราว 8 ล้านรายที่จะต้องจ่ายแอลพีจีในราคาที่เพิ่มขึ้น